สัตว์เลี้ยงเข้าบ้านคนอื่น ผิดหรือไม่ ป้องกันอย่างไรได้บ้าง

เคยไหมครับเวลาเห็นข่าว หรือเห็นอะไรที่เกี่ยวกับสุนัขที่เลี้ยงตามหมู่บ้าน ทุกครั้งที่เป็นปัญหามันก็มักจะจบด้วยการทะเลาะของคนในหมู่บ้าน จนหาทางออกไม่ได้ ต้องพากันไปออกข่าวต่างๆ มากมาย หลายคนก็หาวิธีที่จะจัดการกับปัญหานี้ให้จบลงด้วยดี บางคนถึงขั้นต้องทำการฟ้องจนขึ้นโรงขึ้นศาล เพียงเพราะว่าสุนัขบ้านอื่นมาเข้าบ้านของตน จนทำให้เกิดความเสียหายต่างๆ มากมาย หากเป็นแนวทางที่เรียกได้ว่าเลวร้ายมากที่สุดก็คงหนีไม่พ้นการทำร้ายร่างกายของทั้งคนและสัตว์ครับ เพราะการทำร้ายร่างกายเราไม่ต้องสืบต่อเลยครับว่าใครถูกใครผิด ผู้ที่ได้รับความเสียหายยังไงก็มีสิทธิที่จะเรียกร้องอีกฝ่ายอยู่แล้วครับ และเราควรทำอย่างไรดีเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ซึ่งวันนี้ผมจะพาทุกคนไปดูกันครับว่ามีอะไรน่าสนใจบ้างกับ สัตว์เลี้ยงเข้าบ้านคนอื่น ผิดหรือไม่ ป้องกันอย่างไรได้บ้าง ถ้าคุณพลาดบทความนี้คุณอาจจะต้องเสียเงินหลายบาทเพราะไม่รู้วิธีจัดการที่ถูกต้อง ถ้าสัตว์เลี้ยงดุอย่าปล่อยออกจากบ้าน การเลี้ยงสัตว์เรามีหลากหลายประเภทและที่สำคัญคือสัตว์เหล่านี้มีสัญชาตญาณที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งสัญชาตญาณนี้เองที่ทำให้สัตว์เลี้ยงของเรามีความแตกต่างกันออกไป บางตัวมีลักษณะนิสัยน่ารัก แต่สำหรับบางตัวหรือบางสายพันธุ์มีความดุมากกว่าที่เราจะคิดได้ ซึ่งสิ่งที่เรานั้นจะต้องทำหากเลี้ยงสัตว์ที่ดุกว่าปกติคือการกักบริเวณน้องให้อยู่แค่เฉพาะพื้นที่ปลอดภัย โดยเฉพาะกับสุนัข เพราะสุนัขเป็นสัตว์ที่เรียกได้ว่ามีพละกำลังที่สูงมากกว่าสัตว์ทั่วๆ ไป ซึ่งในการเลี้ยงสุนัข เราจะต้องทำการดูแลสุนัขให้ดี โดยเฉพาะกับสุนัขที่มีความดุ เพื่อป้องกันไม่ให้ทำร้ายใคร สำหรับสุนัขดุที่เคยได้กัดคน หรือทำลายทรัพย์สินมาก่อน หากมีประวัติ สิ่งที่ผู้เลี้ยงต้องระวังเลยคือเรื่องของการไม่ปล่อยให้สุนัขของเรานั้นออกมาเดินได้อย่างอิสระ เพราะถึงแม้น้องจะไม่ได้กัดใคร แต่ตามกฎหมายผิดนะครับ ฉะนั้นหากคุณกำลังเลี้ยงสุนัขดุๆ ซนๆ และมีความเสี่ยงที่จะไปทำลายข้าวของ ขอแนะนำให้ดูแลเป็นพิเศษ และจัดสรรพื้นที่บริเวณบ้านต่างๆ ให้ดี เพื่อป้องกันกัดทำร้ายร่างกายของคนอื่นๆ หากประเมินว่าเป็นสัตว์ร้ายเข้ามาในพื้นที่ และมีเจ้าของสามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ได้เลย สำหรับใครที่เห็นสัตว์เลี้ยงที่มีท่าทีดุร้าย หรือดูแล้วน่าจะเกิดอันตรายเราสามารถแจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อดำเนินการตรวจสอบ หรือแจ้งจับได้เลยครับ โดยไม่ต้องรอให้เกิดเหตุการณ์ก่อน เพราะกรณีนี้อาจเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นตอนไหนก็ได้ จึงเป็นเรื่องสำคัญมากหากประเมินดูแล้วว่าสัตว์ที่เจ้ามามีอันตราย หรือมีเจ้าของและไม่ดูแล […]
ปริมาณอาหารที่เหมาะกับสัตว์แต่ละประเภท สัตว์ตัวไหน กินแค่ไหนต่อวัน?

เรื่องอาหารไม่ว่าจะกับสิ่งมีชีวิตชนิดไหนๆ ก็ตาม จะอะไรก็ได้ ไม่ได้เด็ดขาดนะครับ เพราะอาหารที่ดี ต้องให้คุณค่าทางโภชนาการที่เหมาะสมกับสิ่งมีชีวิตนั้นๆ คุณค่าทางโภชนาการคือเรื่องของสารอาหารต่างๆ ที่อยู่ในอาหาร และถือเป็นสิ่งที่ร่างกายของเรานั้นต้องการอย่างมากเลยครับ ซึ่งทั้งคนและสัตว์เองก็ต้องการสิ่งนี้ต่างกันออกไป เพราะโภชนาการที่ดี ต้องมีการคำนวณมาแล้วว่าเหมาะสมกับสัตว์นั้นหรือไม่ หากมากไปหรือน้อยไปก็ไม่ดี นอกจากนี้ในเรื่องของอาหารเราไม่ได้ดูแค่ในเรื่องของสุขภาพ โภชนาการ แต่เรายังต้องดูปริมาณต่อวันอีกด้วย เพราะปริมาณต่อวันนั้นส่งผลอย่างมากกับร่างกายของเรา ซึ่งทั้งคนและสัตว์ต่างก็ต้องมีการควรคุมปริมาณอาหารที่เหมาะสมไม่ต่างกัน หากมากเกินไปก็จะทำให้สารอาหารที่ได้รับนั้นเกินความต้องการของร่างกาย และนำไปสู่ภาวะอ้วน หรือหากน้อยเกินไปก็จะทำให้เกิดการขาดสารอาหาร ซึ่งหากกินไม่พอดี ไม่คำนวณ สิ่งที่ตามมาคือโรคต่างๆ ในร่างกายมากมาย และวันนี้ผมจะพาทุกคนไปดูกันครับว่า สัตว์เลี้ยงต่างๆ ที่เราเลี้ยงกันตามบ้านหลากหลายชนิด ซึ่ง Petsayhi ได้รวบรวมมาให้แล้วครับในวันนี้กับบทความสัตว์เลี้ยง ปริมาณอาหารที่เหมาะกับสัตว์แต่ละประเภท สัตว์ตัวไหน กินแค่ไหนต่อวัน? ปริมาณอาหารต่อวันของสุนัข อย่างที่เรารู้กันดีอยู่แล้วว่าสัตว์เลี้ยงแสนรักของเราที่มีพลังมหาศาล มีความแอคทีฟ ชอบเล่น ชอบค้นหาและสำรวจสิ่งต่างๆ รอบตัวคงหนีไม่พ้น สุนัขโดยปกติการให้อาหารกับสุนัขไม่ใช่เรื่องยากเลยครับ เพราะเราสามารถให้อาหารน้องทิ้งไว้ได้ และแน่นอนว่าทุกครั้งน้องก็กินหมด ไม่เหลืออยู่ในจานแม้แต่น้อยเลย นั่นเพราะอาหารอร่อยครับ แต่ที่สำคัญเราต้องให้อาหารตามน้ำหนักของสุนัขซึ่งจะมีปริมาณไม่เท่ากัน ผู้เลี้ยงจะต้องไปดูตารางคำนวณอาหารเพื่อที่จะป้องกันการเกิดโรคขาดสารอาหารหรือโรคอ้วนตัวอย่างเช่น สุนัขสายพันธุ์เล็กจะต้องให้อาหารโดยคำนวณจากปริมาณและขนาดของร่างกายเช่นร่างกายขนาด 6 เราควรให้อาหารเม็ดน้องในปริมาณ 110 กรัม ต่อวัน อาหารเปียกควรอยู่ที่ 470 […]
เนื้ออะไรบ้างที่สุนัขของเราสามารถกินได้ ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ

หากใครที่เลี้ยงสุนัข และเคยเห็นสุนัขของเรามีอาการเบื่ออาหาร เราคงรู้กันดีว่าเป็นเรื่องที่สุดแสนจะปวดหัว เพราะอาหารที่เราให้สุนัขกินปกติก็เป็นอาหารเม็ดที่มีสูตรเฉพาะ ขายตามบ้าน ตามร้านขายอาหารสัตว์ที่หาได้อยู่ทั่วไป ซึ่งอาหารเหล่านี้ช่วยให้เราไม่ต้องมานั่งปวดหัวกับการคำนวณเรื่องของปริมาณและความเหมาะสมต่างๆ ซึ่งอาหารปรุงเองจะเน้นไปที่การใช้เนื้อสัตว์เป็นหลัก ซึ่งเนื้อสัตว์ที่ใช้ในการป้อนให้น้องกินไม่ใช่เนื้ออะไรก็ได้นะครับ และที่สำคัญต้องไม่ปรุงเด็ดขาด! นอกจากนี้สิ่งที่เราต้องรู้ไว้เลยคือเรื่องของวัตถุดิบที่ดีต้องมีคุณภาพระดับ Human Grade ขึ้นไป เพราะเนื้อเกรดนี้เป็นเนื้อที่กินได้ดี และปลอดภัยต่อสุขภาพของน้อง แต่ความยากคือเรื่องของการคำนวณปริมาณอาหารและการปรุงสุกแบบไม่ใส่เครื่องปรุง แต่ก็ไม่เป็นไรครับเพราะเรื่องที่เราจะมาเจาะลึกกันวันนี้คือเรื่องของเนื้อสัตว์ที่ใช้ในการปรุงกินเอง และแน่นอนว่าผมจะพาทุกคนไปเจาะลึกว่าเนื้อแต่ละแบบเป็นอย่างไร มีอะไรที่ต้องระวังบ้างกับบทความ เนื้ออะไรบ้างที่สุนัขของเราสามารถกินได้ ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ เนื้อแกะ เนื้อชนิดแรกที่เราจะมาพูดถึงกันในวันนี้คือเนื้อแกะครับ เนื้อแกะคือเนื้อที่มีความพิเศษแตกต่างจากเนื้ออื่นๆ และความพิเศษนี้เองก็ทำให้ราคาของเนื้อแกะค่อนข้างแพงอย่างมากดเลยครับ แต่ก็มีเหตุผลอยู่นะครับว่าทำไมทาสแมวทั้งหลายถึงยอมจ่ายเงินแพงๆ เพื่อให้สุนัขของเรานั้นได้กินเนื้อแกะ เพราะสุนัขบางตัวมีมีโรคประจำตัวคือการแพ้เนื้อสัตว์หรือแพ้โปรตีนอื่นๆ ซึ่งเนื้อแกะถือเป็นเนื้อที่เรียกได้ว่ามีความปลอดภัยมากที่สุดตัวหนึ่งเลยครับ เพราะเนื้อแกะไม่มีโปรตีนตัวร้ายที่จะส่งผลต่อร่างกาย แถมยังอุดมไปด้วยโปรตีนที่ช่วยในการเจริญเติบโตอย่างมากสำหรับสุนัข ทำให้ผู้เลี้ยงหลายคนยอมควักกระเป๋าจ่ายเงินทุ่มไปกับอาหารตัวนี้ ซึ่งเนื้อแกะเป็นหนึ่งในวัตถุดิบธรรมชาติที่ใช้ในการปรุงสุก จึงทำให้เนื้อแกะเป็นหนึ่งในเนื้อยอดนิยมที่คนยอมควักเงินจ่ายเพื่อให้น้องได้สุขภาพที่ดีและแข็งแรงนั่นเอง เนื้อปลา เนื้อปลาคือหนึ่งในเนื้อที่เรียกได้ว่าหาได้ง่าย และดีต่อสุนัขอย่างมากเลยครับ เพราะเนื้อปลานั้นคือเนื้อที่มีประโยชน์หลากหลายด้านมาก โดยเฉพาะกับทางโภชนาการ และพัฒนาการทางสมอง เรียกได้ว่าการให้เนื้อปลาคือสิ่งที่ดีมากเลยครับ เพราะในเนื้อปลานอกจากจะให้โปรตีนที่สูงแล้วยังมีสารอาหารจำเป็นที่ต่อระบบประสาทและสมองอย่าง โอเมก้า 3 และโอเมก้า 6 อีกด้วย ซึ่งสารสกัดในปลาแค่ 2 ตัวนี้ก็เรียกได้ว่าคุ้มค่าแล้วครับกับเงินที่เสียไป เพราะในเนื้อปลาจะมีโปรตีนอยู่ในปริมาณไม่มาก หากเทียบกับเนื้อแกะ และที่สำคัญใครที่อยากให้สุนัขขนสวย สุขภาพดีเราขอแนะนำ […]
ข้อดี-ข้อเสีย ของการเลียขนแมว ที่คุณอาจไม่เคยรู้

เวลาที่แมวเลียขนเราก็มักจะรู้กันอยู่แล้วใช่ไหมครับว่านี่คือหนึ่งในวิธีการทำความสะอาดขนของน้องแมว ส่วนใหญ่เราจะไม่ไปยุ่งอยู่แล้ว ซึ่งหากเราไปกวนการทำความสะอาดขนของน้อง อาจทำให้น้องแมวของเรานั้นเกิดความเครียด และส่งผลต่อลักษณะนิสัยของน้องแมวได้ ซึ่งอาจเกิดความรู้สึกด้านลบไปเลย ถ้าเข้าผิดจังหวะ อย่างไรก็ดีเราก็มักจะเห็นผู้เลี้ยงบางบ้าน ชอบดุน้องเวลาที่น้องเลียขน หรือเขาไปขวางน้องด้วยการเอาแปลงไปหวีขนให้น้องแมวอยู่เป็นประจำ ทำให้มือใหม่หัดเลี้ยงหลายคนต่าง งง และสับสนกับสิ่งนี้ และอะไรละครับ ที่จะถือได้ว่าเป็นวิธีที่ถูกต้องที่สุด วันนี้ผมจะพาคุณไปดูทั้ง 2 มุมมองเลยครับ เพราะทุกอย่างเหมือนเหรียญ 2 ด้านเสมอ มีดีก็ต้องมีไม่ดีใช่ไหมครับ และนั่นทำให้เราจะต้องไปทำความเข้าใจกับพฤติกรรมการเลียขนของน้องก่อนครับว่าสรุปแล้วการที่น้องเลียขนมันดีอย่างไร และไม่ดีอย่างไรในบทความ ข้อดี-ข้อเสีย ของการเลียขนแมว ที่คุณอาจไม่เคยรู้ ข้อดีของการเลียขนแมว ถ้าเราจะพูดกันในเรื่องแรกก็ต้องพูดถึงข้อดีของการเลียขนแมวก่อนข้อเสียอยู่แล้วใช่ไหมครับ เหตุผลที่ทำให้ผมรู้สึกว่านี่คือข้อดี นั่นเป็นเพราะการเลียขนของแมว เท่ากับการทำความสะอาดร่างกายดีๆ นี่แหละครับ เพราะในการเลียของแมวเราเป็นกระบวนการทำความสะอาดร่างกายของแมวครับ ที่เรียกได้ว่ากระบวนการนี้มักเป็นกับแมวทุกตัว เพราะด้วยลักษณะนิสัยของแมวที่ค่อนข้างมีความรักสะอาด ไม่ชอบความสกปรก ทำให้น้องแมวมีพฤติกรรมการเลียขนอยู่ตลอดเวลาและพฤติกรรมนี้เองที่เป็นการดูแลร่างกาย ถ้าเป็นบ้านที่ไม่ได้มีการปล่อยออกไปข้างนอก หรือเน้นไปที่การเลี้ยงแบบระบบปิด ก็ขอบอกไว้เลยครับว่าการทำความสะอาดของแมวเพียงแค่การเลียขนนี้ก็สามารถอยู่ได้ยาวๆ แบบไม่ต้องอาบน้ำได้ 1 – 2 สัปดาห์เลยครับ เพราะแมวของเราไม่ได้สกปรกอะไรยิ่งบ้านไหนที่สะอาดๆ ปัดกวาด เช็ดถูบ่อยๆ ด้วยแล้วละก็หมดห่วงได้เลยครับกับเรื่องนี้ หลายบ้านจึงเลือกที่จะปล่อยให้น้องแมวได้ทำความสะอาดตัวเองไปยาวๆ นั่นเอง ข้อเสียของการเลียขนแมว เราพูดถึงข้อดีไปแล้ว ทีนี้มาดูข้อเสียที่สำคัญๆ […]
4 วิธีป้องกันไม่ให้สุนัขโดนรถชน

ปัญหารถชนเป็นเรื่องปกติ และเกิดได้บ่อยมากโดยเฉพาะกับผู้ที่เลี้ยงสุนัข สุนัขเป็นสัตว์ที่ชอบสำรวจ ชอบออกไปสถานที่ใหม่ๆ มีความอยากรู้ อยากเห็นอยู่คลอดเวลา ทำให้สุนัขเป็นสัตว์ที่ต้องใช้การดูแลและใส่ใจเป็นพิเศษ สิ่งที่อันตรายนอกเหนือจากโรคต่างๆ ที่อาจเกิดได้ตามตัวของสุนัขก็มีให้เราได้เห็นเช่นกัน และหากเราจะพูดถึงอันตรายที่เกิดขึ้นกับสุนัขแล้ว คงไม่มีอันตรายไหนที่จะส่งผลไปได้มากกว่า “อุบัติเหตุ” และที่เกิดบ่อยที่สุดคือเรื่องของรถชน ด้วยความที่สุนัขเป็นสัตว์ที่ชอบออกสำรวจ ออกไปดูตามสถานที่ต่างๆ ทำให้น้องมักจะชอบออกไปตามถนน ซึ่งเป็นเรื่องปกติอย่างมากสำหรับในเมือง และเราก็มักจะถูกสอนเสมอว่าหากมีสุนัขวิ่งตัดหน้ารถ อย่าเบรกเพราะอาจเสียหลัก เกิดอุบัติเหตุได้ ถ้าประเมินแล้วไม่ผ่านให้ชนไปได้เลย เพื่อรักษาการพลิกคว่ำจากการเบรก จึงไม่แปลกที่เรามักจะเห็นน้องหมาที่ไม่มีชีวิต ตายอยู่ตามถนน และถ้าเป็นสุนัขของเราเอง เราก็คงรู้สึกไม่ดีแน่ๆ ซึ่งวันนี้ใครที่กำลังกังวลกับเรื่องนี้อยู่ หรือมีบ้านติดถนนใหญ่ กลัวว่าน้องจะเกิดอันตรายต้องอ่านให้จบครับ เพราะบทความนี้ถือได้ว่าเป็นบทความที่อาจช่วยให้สุนัขของคุณปลอดภัยมากขึ้นกว่าเดิมใน 4 วิธีป้องกันไม่ให้สุนัขโดนรถชน ที่ทาง Petsayhi ได้นำมาเสนอ ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลยครับว่าจะมีวิธีอะไรบ้าง 1.ใช้รั้วที่มีความแข็งแรง ใช้แบบสูง ซี่ถี่ และฝังดินให้ลึก สำหรับใครก็ตามที่กำลังอยากจะเริ่มเลี้ยงสุนัขแต่สถานที่เลี้ยงอยู่ใจกลางเมือง แถมยังติดกับถนนอีกต้องพิจารณาให้ดีนะครับ เพราะเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องที่สำคัญและเรานั้นต้องให้ความใส่โดยส่วนมากแล้วสุนัขของเรามักจะเกิดอุบัติเหตุกับรถอยู่เสมอ ยิ่งกับสุนัขที่ถูกเลี้ยงไว้ติดถนนยิ่งเป็นเรื่องยากเลยครับที่เรานั้นจะต้องดูแล และที่สำคัญเราต้องไม่ปล่อยให้สุนัขของเราวิ่งเพ่นพ่านออกจากบ้าน การที่มีบ้านติดถนนจึงเป็นเรื่องที่หลายคนจะต้องทำความเข้าใจและหาทางที่จะป้องกันไว้เสมอ ซึ่งการป้องกันที่ดีที่สุดคงหนีไม่พ้นการป้องกันรอบบ้านด้วยรั้ว การติดตั้งรั้วเป็นสิ่งที่ดีมากเลยครับ เพราะจะทำให้เราสามารถป้องกันน้องจากการออกไปเล่นนอกบ้านได้นั้นเอง แต่สิ่งที่ต้องระวังคือสุนัขนั้นกระโดดได้สูง แถมยังเป็นยอดนักขุดอีกต่างหาก เราจึงต้องเลือกรั้วที่ฝังลงดินได้ลึกๆ และมีความสูงในระดับที่น้องขุดแล้วไม่ถึง จะทำให้น้องปลอดภัยจากการวิ่งออกถนน 2.พาเดินเล่นห้ามปล่อย […]
3 ฤดูกาลในประเทศไทย ที่ส่งผลต่อพฤติกรรมของสุนัข

สุนัขที่กับมนุษย์เป็นสิ่งที่คู่กันมานาน ตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษของเราสุนัขถือได้ว่าเป็นมิตรคู่แท้ที่อยู่กับเรามานาน ในทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นในการหาอาหาร การช่วยทำเกษตรกรรมอย่างการต้อนแกะ หรือจะเป็นความโหดร้ายอย่างในสงคราม สุนัขเองก็มีบทบาทสำคัญไม่แพ้มนุษย์ แต่ถึงจะดูว่าสุนัขจะแข็งแกร่งแค่ไหน แต่เชื่อหรือครับไม่ว่า สุนัขของเราก็มีจุดอ่อนที่เราอาจคาดไม่ถึงกับเรื่องง่ายๆ อย่างสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง นั่นเพราะสภาพอากาศเหล่านี้ที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่บ่อยๆ ซึ่งสุนัขของเราก็เหมือนเราแหละครับเวลาอากาศเปลี่ยนสภาพอารมณ์ของสุนัขก็จะเปลี่ยนตามกันออกไป มีทั้งดีด พลังงานเหลือล้น หรือขี้เกียจไม่ทำอะไรเลยก็มี และวันนี้ Petsayhi จะพาทุกคนไปดูกันครับว่าถ้าเป็นสภาพอากาศในประเทศไทย ที่เราอยู่ในตอนนี้ เราจะทำอย่างไร และสุนัขของเราจะเปลี่ยนพฤติกรรมอย่างไรกับบทความ 3 ฤดูกาลในประเทศไทย ที่ส่งผลต่อพฤติกรรมของสุนัข ฤดูร้อน มาถึงช่วงไตรมาสแรกของปีนั่นคือช่วงฤดูร้อน โดยทั่วไปสุนัขที่เป็นสายพันธุ์ไทย ไม่ว่าจะเป็นพันธุ์ผสมหรือพันธุ์แท้ก็ตาม เราจะเห็นได้ว่าสิ่งที่เหมือนกันเลยคือเรื่องของขนบนตัวน้อง เพราะด้วยน้องเป็นสัตว์ที่เกิดอยู่ในโซนอากาศร้อน จึงได้มีการวิวัฒนาการแบบใหม่ๆ ขึ้นมาเพื่อเป็นการปรับตัวให้เข้ากับสภาพอากาศในประเทศไทย ทำให้น้องหมาเหล่านี้จะไม่ค่อยมีผลกระทบอะไรมาก และด้วยความเป็นสุนัขไทยที่ขนสั้นจะเล่นน้ำ กระโดดน้ำจึงไม่น่าปวดตัวเพราะทำความสะอาดได้ง่ายๆ แต่กลับกันเลยครับ หากเป็นสุนัขจากต่างประเทศ ไม่ว่าจะตัวไหนก็ตาม ขอแค่ขนยาวๆ รับรองว่าอยู่ยากแน่นอนเพราะร่างกายของน้องๆ ไม่ได้ถูกออกแบบมาให้เหมาะสมกับเมืองร้อนอย่างในประเทศไทย ซึ่งฤดูร้อนนี้เป็นเหมือนนรกของน้องๆ เลย บางบ้านเลือกที่จะหาน้ำแข็งมาให้น้องนอน เพราะน้องๆ ขนยาวจะไม่ชอบสภาพอากาศแบบนี้เลย หากใครที่เลี้ยงสุนัขช่วงนี้อาจจะเตรียมบ่อน้ำไว้น้องได้เล่นบ้างเวลาว่างๆ ลดทั้งความร้อน และได้สร้างความสัมพันธ์ร่วมกัน ฤดูฝน ถัดมาช่วงกลางปีหลังจากร้อนๆ ก็เปลี่ยนสภาพอากาศมาสู่ความเย็นแบบคูลๆ ที่ออกไปไหนไม่ได้กับช่วงหน้าฝน ช่วงนี้เป็นช่วงที่สุนัขเบื่อมากที่สุด […]
จัดบ้านยังไงให้อยู่สบาย อยู่ง่าย ทั้งคนทั้งสัตว์ เมื่อต้อง Work From Home

บ้านคือแหล่งพักพิงของเราทั้งคนและสัตว์ ซึ่งบ้านของเรานั้นเป็นสถานที่สำคัญมากสำหรับทุกคน เพราะบ้านคือที่หลบภัยและเป็นที่ให้ความสุขสงบ การที่เราได้อยู่บ้านจึงเป็นหนึ่งในเรื่องที่หลายคนต่างอยากได้และอยากมี ในปัจจุบันบ้านก็ได้กลายเป็นหนึ่งในที่ทำงาน โดยเฉพาะหลังจากที่เกิดโรคระบาดร้ายแรงอย่าง Covid-19 ที่ทำให้หลายบริษัทต้องปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานให้กับพนักงานจากเดิมที่ต้องออกไปทำงานที่บริษัท ออฟฟิศ หรือสถานที่ทำงานประจำ ต้องเริ่มมา Work From Home อยู่ที่บ้านมากขึ้น ทำให้หลายคนมีโอกาสได้อยู่บ้านบ่อยมากขึ้น แน่นอนว่าการทำงานที่บ้านทำให้เรานั้นต้องปรับตัวกับสภาพ และบรรยากาศใหม่ การจัดบ้านจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมากเพราะจะช่วยส่งเสริมบรรยากาศต่างๆได้ แต่มันจะยากขึ้นเป็นเท่าตัวหากคุณมีสัตว์เลี้ยงอยู่ในบ้านด้วย เพราะการเลี้ยงสัตว์ในบ้าน เรานั้นจะต้องคำนึงถึงรูปแบบมากขึ้นกว่าเดิม เพราะการจัดบ้านที่ไม่คำนึงถึงสัตว์เลี้ยงอาจสร้างความยุ่งยากมากขึ้นเป็นเท่าตัวเมื่อสัตว์เลี้ยงของเราไม่ชิน วันนี้เราจะมาแนะนำวิธีกันครับว่าวิธีการหรือทางออกไหนที่ดีแต่ทั้งแมวเรา และตัวของเราเองในการจัดบ้าน ถ้าคุณรู้แล้วบอกเลยครับว่าคุณจะใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้นเป็นเท่าตัวแน่นอนกับบทความจาก Petsayhi จัดบ้านยังไงให้อยู่สบาย อยู่ง่าย ทั้งคนทั้งสัตว์ เมื่อต้อง Work From Home จัดบ้านให้อากาศปลอดโปร่ง โล่ง สบาย เวลาที่เราอยู่บ้านกับสัตว์เลี้ยงของเราสิ่งแรกที่เราจะต้องรู้เลยคือน้องๆ จะสร้างความวุ่นวายตลอดวัน เพราะน้องๆ ดีใจที่เห็นเราอยู่กับบ้าน แต่สิ่งที่น่ากลัวนอกเหนือจากอาการดีด กระโดดโลดเต้นของเหล่าสุนัขและแมวนั้นคือเรื่องของกลิ่น โดยเฉพาะกับกลิ่นฉี่ กลิ่นอึ ที่ถึงแม้เราจะมีห้องน้ำไว้ให้น้องๆ ได้ถ่าย ได้ปลดทุกข์แล้ว แต่ก็ยังคงไม่เพียงพอ เพราะเรื่องของกลิ่นเป็นเรื่องที่จัดการได้ยาก ปัญหานี้เกิดได้จากการที่บ้านของเราไม่มีระบบระบายอากาศที่ดีมากพอ จนทำให้บ้านของเรานั้นเต็มไปด้วยกลิ่นจากการปลอดทุกข์ของน้องๆ ทางที่ดี หากเราทำงานแบบ Work […]
5 เรื่องลับของแมวส้มที่คุณอาจไม่เคยรู้

ในสมัยเด็กเชื่อว่าใครหลายคน คงเคยคุ้นหน้าคุ้นตา หรือเห็นผ่านๆ กันมากันบ้างแล้วครับ เจ้าอ้วนแมวส้มในจอทีวี ที่มีคาแร็กเตอร์สุดแสนจะกวนเอาแต่ใจ จนช่วงนั้นหลายคนต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่มีสัตว์เลี้ยงตัวไหนที่น่าเลี้ยงไปกว่าแมวส้ม เหมือนที่เราเห็นในทีวีเลยครับกับแมวส้มที่เราคุ้นตาอย่างเจ้าการ์ฟิวส์ แมวส้มจอมป่วนประจำหน้าทีวีของเรา เราเห็นกันมาตั้งแต่เด็กแล้วครับ แทบไม่ต้องพูดถึงเลย เพราะทุกเรื่องราวของเจ้าแมวส้มนี้ถูกถ่ายทอดออกมาให้เราได้ดูกันผ่านหน้าจอทีวีกันหมดแล้ว แต่ในชีวิตจริงละครับ แมวส้มที่เรารู้จักนั้นเป็นเหมือนกับเจ้าการ์ฟิวส์ในการ์ตูนหรือไม่ มีอะไรที่แตกต่างกันออกไปบ้าง ผมอยากพาทุกคนไปดูกันสักหน่อยครับว่า ความลับที่ซ่อนอยู่ในตัวของแมวส้มนั้นมีอะไรบ้าง บางเรื่องคุณอาจจะไม่เคยได้รู้หรือได้ฟังจากที่ไหนมาก่อน กลับกันบางเรื่องที่คุณรู้อาจไม่ใช่เรื่องจริงอย่างที่คุณคิดกับ 5 เรื่องลับของแมวส้มที่คุณอาจไม่เคยรู้ แมวส้มคือแมวลายสลิด เวลาคุณมองแมวส้มกันคุณนึกถึงอะไรครับ คุณคงนึกถึงความซน สีส้ม หรือจะเป็นหน้าผากรู้ตัว M ใช่ไหมครับ คุณรู้หรือไม่ครับว่าแมวส้มนั้นมีความลับบางอย่างที่ถูกซ่อนไว้อยู่บนลำตัวและสีขนสีส้มของน้อง นั่นคือลายที่เป็นเอกลักษณ์ ที่มีเฉพาะในแมวส้มเท่านั้น ลายนั้นเราเรียกว่า “ลายสลิด” ลายของแมวจะเกิดจากการเกิดขึ้นของไรขนเป็นแถวเป็นแนว ไม่ใช่จากสีที่ตัดกันเหมือนแมวอื่นๆ นั่นทำให้แมวของเรานั้นมีความโดดเด่น เป็นเอกลักษณ์ หากใครเลี้ยงแมวส้ม และคุณลองสังเกตที่ขนของน้องแมวให้ดี คุณจะเห็นได้อย่างชัดเจนเลยครับว่า แมวของคุณมีลายที่แปลก และแตกต่างไปจากแมวอื่นๆ นั่นทำให้หลายคนที่เลี้ยงแมวส้มต่างรู้สึกเซอร์ไพรส์กันอย่างมาก เพราะลายสลิดนี้จะมีเฉพาะกับแมวสีส้มเท่านั้น เรียกได้ว่าเป็นสิทธิพิเศษก็คงไม่ผิดครับกับลายสลิดบนแมวส้ม เป็นแมวที่มีความฉลาดมาก แต่มีความบ้าบอสูงมากกว่า ภาพจำของผมกับแมวการ์ฟิวส์นั้นค่อนข้างชัดเจนครับ กับอุปนิสัยสุดแสนจะขี้เกียจ และแมวตัวนี้ก็ถือได้ว่าเป็นแมวที่กวนประสาทที่สุดตัวหนึ่งเลย เพราะความป่วนของเจ้าแมวตัวนี้เรียกได้ว่าใครได้เลี้ยงก็ต้องมีปวดหัวกันแน่นอน และพอผมได้เข้ามาเลี้ยงแมวชนิดนี้เข้าจริงๆ อาจจะบอกได้ว่าไม่ต่างอะไรเลยครับกับแมวในการ์ตูน เพราะแมวส้มฉลาดมาก มีความกระตือรือร้นสูงแบบสุดๆ […]
5 เรื่องลับๆ ของแมวที่คุณอาจไม่เคยรู้ ถ้าได้รู้แล้วคุณอาจต้องอึ้ง

คุณเคยได้ยินคำว่า “ความลับ” บ้างไหมครับ คุณคิดว่าความลับประเภทไหนที่จะทำให้เรานั้นอยากรู้มากที่สุด ความลับจากคนรอบข้าง ความลับจากคนที่เราชอบ ความลับที่ไม่เคยมีใครได้รู้มาก่อน หรือจะเป็นความลับจากสัตว์เลี้ยงตัวโปรดของเรา คุณคิดว่าความลับไหนคือความลับที่น่าสนใจมากที่สุดครับ แน่นอนว่า Petsayhi เป็นเว็บไซต์เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง คงจะพูดกันเรื่องอื่นไม่ได้แน่นอนนอกจากความลับจากสัตว์เลี้ยง ซึ่งความลับจากสัตว์เลี้ยงถือเป็นความลับที่มาจากธรรมชาติ การจะได้พบเจอก็ถือได้ว่าไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลยครับ เพราะโดยปกติแล้วเรื่องลับๆ ของแมวเรานั้นจะต้องมานั่งสังเกตกันเอง กว่าจะเจอ หรือบางครั้งเราก็ได้พบ ได้เจอกันแบบงงๆ โดยบังเอิญก็ถือได้ว่าเป็นเรื่องที่โชคดีกันไป เพราะความลับเหล่านี้ไม่ได้แสดงออกมาให้เห็นกันง่ายๆนะครับ ยิ่งเป็นแมวที่หวงเนื้อหวงตัวด้วยแล้วยิ่งยากเลย ฉะนั้นวันนี้ผมจะพาทุกคนไปดูกันครับว่า มีอะไรบ้างที่น่าสนใจและเป็นเรื่องลับๆ ของแมว ไม่แน่นะครับบางอย่างน้องอาจจะแสดงออกมาให้คุณได้ดูบ้างแล้วแบบที่คุณนั้นยังไม่รู้ตัวกับ 5 เรื่องลับๆ ของแมวที่คุณอาจไม่เคยรู้ ถ้าได้รู้แล้วคุณอาจต้องอึ้ง ใครว่าแมวหาวแปลว่าง่วงได้อย่างเดียว บางครั้งการหาวก็ตีความแบบอื่นได้ เคยไหมครับเวลาที่เห็นแมวหาว เราจะรู้ได้ทันทีเลยครับว่าแมวของเรานั้นกำลังแสดงออกถึงพฤติกรรมง่วงนอน เพราะคนเองก็จะแสดงพฤติกรรมแบบนี้ออกมาเหมือนกัน เพื่อเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่า แมวนั้นต้องการ การพักผ่อน หรือพึ่งตื่นนอน แต่รู้หรือไม่ครับว่าอีกสัญลักษณ์หนึ่งของการหาวของแมวนอกจากเรื่องของการง่วงนอนแล้ว ก็ยังสามารถสื่อเป็นรูปแบบอื่นๆได้อีกด้วยอย่างเช่นในขณะที่แมวของเรานั้นมีการต่อสู้อยู่ หากแมวตัวไหนที่หลบตาและแสดงอาการหาวออกมานั่นหมายความว่าน้องออกแสดงออกถึงพฤติกรรมของการยอมแพ้นั่นเอง ซึ่งพฤติกรรมนี้หลายคนยังไม่รู้ ถือเป็นเรื่องลับๆ เรื่องแรกที่เรียกได้ว่าน่าตกใจมากเลยครับกับการหาวของแมว แมวจะแสดงความไว้ใจด้วยการกะพริบตา ในเรื่องของการแสดงออกในด้านของการบอกถึงการบอกรัก คุณคิดว่ามีวิธีไหนบ้างที่น้องแมวของเรานั้นสามารถแสดงออกมาได้ อย่างแรกที่เรานั้นนึกถึงได้เลยคือเรื่องของการเข้ามาคลอเคลีย อยู่ใกล้ชิด หรือเดินตามติดเราแต่มีอีกหนึ่งในวิธีที่เรียกได้ว่าน้องใช้ในการแสดงออกให้เราได้เห็นกันมาหลายครั้ง แต่เราอาจไม่เคยรู้มาก่อนกับวิธีการจ้องตาและกะพริบตา การจ้องตาและการกะพริบตาเป็นการสื่อสารออกมาในรูปแบบของการมอง […]
4 อาการแมวป่วย ดูยังไง สังเกตได้จากอะไรบ้าง

อาการแมวป่วยนี่ถือเป็นเรื่องสำคัญมากที่เราจะต้องคอยสังเกตพฤติกรรม เพราะในการดูแลน้องนั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยครับที่เราจะรู้ว่าน้องเป็นอะไร บางบ้านรู้ตัวอีกทีคือสายไปแล้วครับ ฉะนั้นทางที่ดีเราจึงควรหมั่นสังเกตน้องแมวของเราในทุกๆวันว่ามีอาการผิดปกติหรือไม่ ซึ่งหากมีอาการผิดปกติให้เรานั้นรีบหาวิธี หรือแนวทางในการป้องกันและดูแลรักษาได้เลย เพราะเวลาที่น้องแมวของเรานั้นป่วยจะเป็นเรื่องที่น่ากลัวมากครับ เพราะแมวของเรานั้นจะมีการรักษาที่ค่อนข้างแพง แต่ละเคสถ้าช้าไปราคาจากหลักพัน อาจกลายเป็นหลักหมื่นได้เลยครับ แน่นอนว่าเป็นเรื่องที่ยากและเราจะต้องมีการคิดหนักมาก แต่อย่างไรก็ตามเชื่อว่าเรื่องเงินคงไม่ใช่ปัญหาหรอกครับ แต่เรื่องของชีวิตน้องนี่แหละครับ ที่เรียกได้ว่าเป็นปัญหามากที่สุด เพราะเราไม่รู้เลยว่าน้องแมวของเราอาการหนักแล้วโอกาสรอดจะมีไหม จึงทำให้การสังเกตพฤติกรรมของการป่วยในแมวเป็นเรื่องที่สำคัญและวันนี้ Petsayhi จะพาทุกคนไปดูกันครับว่ามีอะไรบ้างที่น่าสนใจและเป็นประโยชน์กับเรา หากเราต้องการที่จะดูแลแมว และอยากรู้เท่าทันอาการป่วยของแมวในบทความสุขภาพสัตว์ 4 อาการแมวป่วย ดูยังไง สังเกตได้จากอะไรบ้าง 1.ซึมๆ นอยด์ๆ ไม่เล่น หรือไม่แอคทีฟ ปกติแมวเป็นสัตว์นักล่าครับหลายครั้งที่เรานั้นจะเห็นน้องชอบวิ่งหน้าตั้งจากหน้าบ้านไป หลังบ้านในเวลาไม่กี่วินาที หรือเวลาที่เราพาน้องเข้าห้องเตรียมนอน น้องแมวของเรานั้นก็วิ่งขึ้นเตียงกระโดดไปมา แบบบ้าระห่ำ ซึ่งเป็นเรื่องปกติของแมวครับ เพราะแมวเป็นสัตว์นักล่า ความสุขของแมวคือการได้ล่า ได้วิ่ง กระโดด ซึ่งหากแมวของคุณยังคงมีพฤติกรรมเหล่านี้อยู่ก็สบายใจได้ครับถือว่าน้องแมวของคุณนั้นยังคงเป็นปกติอยู่ แต่หากไม่มีพฤติกรรมเหล่านี้ หรือน้องดูนิ่งลง ไม่แอคทีฟ หรือไม่มีปฏิสัมพันธ์เอาแต่นอน ก็บอกได้เลยครับว่าอาจเกิดความผิดปกติกับตัวน้องได้ในทางใดทางหนึ่งทั้งในเรื่องของสภาพจิตใจ หรือสภาพร่างกาย ผู้เลี้ยงเองก็ควรดูแลน้องให้ดี และหมั่นสังเกตน้องอยู่บ่อยๆครับ 2.ไม่เลียขนตัวเอง หรือทำความสะอาดตัวเอง ปกติแมวของเรานั้นมักจะทำความสะอาดตัวเองอยู่บ่อยๆ และเป็นประจำ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ปกติมากครับ วิธีทำความสะอาดของแมวก็หนีไม่พ้นเรื่องของการเลียขนนั่นเอง การเลียขนถือเป็นสิ่งที่แมวต้องทำเป็นประจำ […]