คุณแยกสุนัขยังไง ว่าตัวนี้สายพันธุ์ไหน ตัวนั้นต่างกันยังไง พันธุ์แท้ หรือพันธุ์ผสม แน่นอนการแยกสุนัขเหล่านี้ออกจากกันเป็นเรื่องที่อาจบอกได้ว่าอยาก และต้องใช้ความสามารถ ทักษะในการดู ผู้เลี้ยงจะต้องมีความรู้ถึงลักษณะเฉพาะของสุนัขที่กำลังเปรียบเทียบทั้งสองตัว แต่ถือเป็นเรื่องสำคัญนะครับโดยเฉพาะกับมือใหม่ที่กำลังจะซื้อสายพันธุ์แท้ที่มีราคาสูงจะต้องดูให้ดีเพื่อที่คุณจะไม่ถูกหลอกขาย คราวนี้มาดูกันครับว่าหากคุณเจอสุนัขสองสายพันธุ์นี้คุณจะแยกออกไหมระหว่าง Gloden กับ Labrador สุนัขตัวใหญ่ที่ดูยังไงก็คล้ายกันอย่างมาก ทำเอาผู้เลี้ยงบางคนถึงกับแยกไม่ออกก็มี ฉะนั้นวันนี้ Petsayhi จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับ 4 ความแตกต่างระหว่าง Gloden กับ Labrador ที่หลายคนเข้าใจผิด เพื่อที่ในอนาคตหากคุณกำลังหาน้องๆ ทั้ง 2 ตัว จะได้ไม่โดนย้อมแมวมาขายนะครับ
1. ทั้งสองตัวมีต้นกำเนิดที่ต่างกัน
Gloden กับ Labrador ถึงมีจะมีลักษณะทางกายภาพที่ค่อนข้างบอกได้เลยว่าเหมือนกันมากในหลายส่วน แต่น้องทั้งสองไม่ได้มาจากที่เดียวกัน มีต้นกำเนิดที่แตกต่างกันออกไป อย่าง Gloden มาจากประเทศอังกฤษ และประเทศสกอตแลนด์ ซึ่งถือเป็นโซนประเทศที่มีความหนาวเย็น จึงทำให้ร่างกายของน้องนั้นใหญ่และมีขนปกคลุมอยู่มั่วบริเวณตัว ส่วน Labrador เป็นสุนัขที่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศแคนาดา ค้นพบบริเวณเกาะฟันแลนด์ น้องถูกเลี้ยงให้ใช้ชีวิตอยู่กับชาวประมงเป็นสุนัขที่มีพละกำลังมาก ตัวใหญ่ แถมยังชอบเล่นน้ำ เพราะเป็นสุนัขที่ขี้ร้อน จึงทำให้ Labrador มีขนสั้นนั่นเอง
2. ลักษณะรูปร่างคล้ายกันจนแทบเหมือนกัน
สำหรับสุนัขทั้งสองสายพันธุ์อย่าง Gloden และ Labrador ก็ต่างเป็นสุนัขที่มีความพิเศษในเรื่องของขนาดตัวที่ใหญ่ ทำให้หลายครั้งก็มีคนเข้าใจผิดอยู่บ่อยๆ และเรียกสลับกัน ซึ่งผมจะพาทุกคนไปดูกันครับ ว่าสองสายพันธุ์นี้มีอะไรที่แตกต่างบ้าง อ่านจบรับรองว่าคุณจะสามารถแยกน้องๆ ได้ทันทีเลย ส่วนแรกเราจะพูดในเรื่องของน้อง Gloden กันก่อน ซึ่งลักษณะภายนอกโดยรวมน้องจะมีขนปุย ยาวปกคลุมตลอดทั้งตัว แต่จะเห็นได้ว่าจะมีช่วงบริเวณคอ ขาหลังและช่วงหางที่จะมีขนยาวเป็นพิเศษ แต่หากเป็นน้อง Labrador น้องจะมีลักษณะที่แตกต่างออกไป เพราะน้องนั้นจะมีขนสั้น เราสามารถเห็นกล้ามเนื้อบนตัวของน้องได้อย่างง่าย เพราะขนน้องนั้นดูสั้นจนติดเนื้อ แต่ก็ไม่ถึงกับเกรียนตลอดทั่วทั้งตัว จุดสังเกตที่จะแบ่งได้ชัดจริงๆ คือบริเวณหางครับ เพราะหางของ Labrador จะยาว เรียว แต่ของ Gloden จะถูกปกคลุมไปด้วยขนหนา
3. ลักษณะสีขน
หากดูเรื่องของสีขนแล้ว Gloden และ Labrador ขอบอกเลยครับว่าเป็นเรื่องยาก และโอกาสผิดพลาดค่อนข้างสูง เพราะในปัจจุบันการผสมข้ามสายพันธุ์เป็นที่นิยมมากขึ้น ทำให้ผู้อ่านหลายคนอาจจะพลาดได้ เพราะเรื่องสีเป็นเรื่องของนามธรรม จะแบ่งแยกชัดเจนเอาจริงๆ ก็เป็นเรื่องยาก หากไม่เอาตารางสีไปเทียบก็บอกไม่ได้ว่าเป็นสีไหน เพราะGloden และ Labrador ก็ต่างถูกจัดให้มีสีอยู่ในโทนเดียวกัน คล้ายกัน แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะแยกไม่ได้หรอกครับ มาเริ่มกันที่ Gloden กันก่อนดีกว่า สีเด่นชัดของน้องจะออกไปในโทนสีทอง อาจรวมไปถึงสีเนื้อ สีกรม และน้ำตาลอ่อนอีกด้วย หากเป็น Labrador จะออกไปในโทนเดียวกันครับ แต่จะคนละสีเพราะน้องจะมีสีโทนที่เข้มกว่า อย่างสีเนื้อขุ่น น้ำตาลเข้มจัด และสีดำก็มี การแยกน้องสองสายพันธุ์เป็นเรื่องยาก จะแยกได้ต้องดูลักษณะอื่นๆ ประกอบไปด้วยครับ
4. จมูก
อีกหนึ่งจุดที่ถือเป็นจุดสังเกตที่ดี และจะทำให้เราสามารถแยกระหว่าง Gloden กับ Labrador ออกจากกันได้ นั่นคือผิวบริเวณจมูกของน้องที่จะมีลักษณะของพื้นผิวที่แตกต่างกันออกไป สำหรับผมบอกได้เลยว่าจุดนี้เป็นจุดที่เรียกได้ว่าชัดเจนมากที่สุดแล้ว ถ้าเป็น Gloden จมูกน้องจะมีสีดำสนิท แต่หากเป็น Labrador จมูกของน้องจะค่อนข้างแปลกหน่อย เพราะน้องจะมีสีจมูกแบบตัดกันไม่เป็นสีเดียว แต่ก็จะออกไปทางโทนสีน้ำตาลเป็นหลัก ถึงดำก็ไม่ถึงขันกับดำสนิท
เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับ 4 ความแตกต่างระหว่าง Gloden กับ Labrador ที่หลายคนเข้าใจผิด ที่ทาง Petayhi ได้นำมาฝากกันในวันนี้ เพราะสุนัขสองสายพันธุ์นี้เรียกได้ว่าเป็นสุนัขที่มีความคล้ายคลึงกันอย่างมาก และอีกหนึ่งสิ่งที่ต้องบอกไว้ตรงนี้เลยคือเรื่องของลักษณะนิสัยทั้งสองก็ต่างกันโดยสิ้นเชิง หากการซื้อสุนัขตัวใหญ่ไว้บ้านเพื่อปกป้องทรัพย์สิน การเลี้ยง Labrador จะมีความเหมาะมากกว่า Gloden นั่นเพราะLabradorมีเสียงเห่าที่น่าเกรงขาม และหวงถิ่น แต่กลับกัน Gloden เป็นสุนัขที่เข้าถึงง่ายพร้อมเปิดรับทุกคน อยู่ที่คุณแล้วครับว่าชอบแบบไหน หรือจะซื้อน้องไปเลี้ยงเพื่ออะไร หวังว่าจากนี้ไปทุกคนจะเข้าใจความต่างของสุนัขสองสายพันธุ์นี้กันนะครับ หากใครที่ไม่อยากพลาดข่าวสารดีๆ ในแวดวงสัตว์เลี้ยง Petsayhi จึงเป็นหนึ่งในเว็บไซต์สำคัญที่จะทำให้คุณไม่พลาดข่าวสารเนื้อหาสาระใหม่ๆ ในแวดวงสัตว์เลี้ยง สล็อตเว็บตรง