จะเลี้ยงแมวทั้งทีมีอะไรที่ต้องรู้บ้าง นอกจากการเลี้ยงแมวแบบทั่วไปที่เราเห็นกัน การดูแล ทำความสะอาดแบบปกติ สิ่งที่ต้องคำนึงถึงอย่างหนึ่งคือโรคของแมว ที่เรียกได้ว่าเป็นสิ่งที่เราต้องให้ความสำคัญอย่างมาก เพราะการเกิดโรคจะเกิดจากเชื้อไวรัสที่อยู่ตามสิ่งต่างๆ ที่น้องต้องเจอในชีวิตประจำวัน ซึ่งปัญหาเหล่านี้นั้นซับซ้อนมาก ทำให้ผู้เลี้ยงหลายคนต้องกังวลว่าน้องจะติดโรคต่างๆ แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าโรคเหล่านี้จะเกิดขึ้นกับตัวของแมวเราหรือไม่ ทั้งหมดนี้เราสามารถสังเกตได้ซึ่งวันนี้ Petsayhi ได้นำความรู้และรายละเอียดเกี่ยวกับ โรคติดต่อที่ผู้เลี้ยงแมวมักจะเจอกันมากที่สุด 5 โรค สุดฮิต และวันนี้ผมจะพาทุกคนไปดูกันว่ามีโรคอะไรบ้าง และมีอาการยังไง รวมไปถึงแนวทางในการป้องกันไม่ให้เกิดโรคทำอย่างไรบ้างใน 5 โรคสำคัญในแมวสุดฮิต ที่ผู้เลี้ยงต้องรู้
1. โรคเชื้อราในแมว
โรคเชื้อราในแมว เป็นหนึ่งในโรคผิวหนังสุดฮิตที่แมวทุกตัวเป็นกันตลอด โรคนี้มีโอกาสติดกันค่อนข้างสูง โรคเชื้อราในแมวเกิดจากเชื้อราชนิด Microsporum canis ที่เกิดจากความชื้นต่างๆ และที่สำคัญอาจจะมาจากความชื้นจากการสัมผัสผ่านมือ และความเสี่ยงของแมวที่จะเกิดเชื้อราเหล่านี้ได้มักจะเกิดกับแมวที่มีขนยาวมากกว่าแมวขนสั้น เพราะแมวขนยาวจะมีความอับชื้นมากกว่าแมวขนสั้น อาการของโรคนี้จะสังเกตได้จากการเกาของแมว ซึ่งเกิดการคัน และระคายเคืองผิวหนัง และจะมีสะเก็ดตกออกมาจากผิวหนังคล้ายกับรังแคหนังศีรษะ วิธีการป้องกันโรคเชื้อราในแมว ให้เราหมั่นทำความสะอาดบริเวณพื้นที่ ที่แมวอยู่เป็นประจำเพื่อป้องกันเชื้อรา และหากกรณีที่แมวเป็นโรคแล้ว ให้ทำการรักษาแมวก่อน เพื่อป้องกันการติดต่อ เมื่ออาการดีขึ้นแล้ว ให้หมั่นอาบน้ำ ทำความสะอาดร่างกายบ่อยๆ จนผิวหนังฟื้นตัว และไม่ให้เกิดการอับชื้น
2.โรคหวัดแมว
นอกจากมนุษย์แล้วการเปิดหวัดสามารถเกิดกับแมวได้เช่นกันและสัตว์อื่นๆ ได้เช่นกัน ซึ่งโรคนี้เกิดได้จากการติดต่อการทางอากาศ ซึ่งอาการที่เคยพบและรุนแรงที่สุดถูกเรียกว่า Feline viral rhinotracheitis, Feline calcivirus ซึ่งเป็นชื่อของเชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดหวัดในแมว 2 ตัวนี้เรียกว่าหนักสุดในทุกเชื้อ เพราะอาจจะทำภูมิต้านทานแมวลดลง จนถึงขั้นเสียชีวิตได้เลยทีเดียว การสังเกตอาการของแมวว่าเป็นโรคหวัดแมวหรือไม่ให้เราดูว่าน้องมีการจามหรือไม่ เพราะการจามเป็นสัญญาณเริ่มต้นของโรคชนิดนี้ จากนั้นจะมีอาการน้ำมูกไหล มีไข้ อ่อนเพลียเหมือนคน การป้องกันหวัดแมวทำได้ง่ายที่สุดคือการฉีดวัคซีน และดูแลความสะอาดในการเลี้ยง ที่สำคัญผู้เลี้ยงต้องลดการสัมผัสกับแมวที่เป็นโรคโดยตรง เพราะเราอาจจะติดไวรัสนี้ได้เช่นกัน
3. โรคไข้หัดแมว
เรียกได้ว่าเป็นโรคที่มีชื่อสุดแสนจะประหลาดและไม่คุ้นหูกับ โรคไข้หัดแมว โดยโรคนี้เป็นโรคที่เกี่ยวกับลำไส้ของแมวที่มีพาหะอย่าง Feline panleukopenia Virus เป็นพาหะตัวร้านของโรคนี้ ความน่ากลัวของไวรัสตัวนี้คือมันสามารถอดทนต่อสิ่งต่างๆรอบตัวได้ หรือเรียกง่ายๆ ไวรัสตัวนี้มีภูมิต้านทานนั่นเอง ซึ่งโรคไข้หัดแมว มักจะเกิดกับแมวที่มีอายุน้อย ประมาณ 6 สัปดาห์ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ติดกับแมวที่โตแล้ว ที่น่ากลัวกว่านั้นคือ หากเป็นแม่แมวที่กำลังตั้งท้องแล้วติดโรคนี้ อาจจะทำให้เกิดการแท้งลูกออกมาได้เลย การสังเกตอาการของโรคไข้หัดแมว จะมีอยู่ 3 รูปแบบได้แก่
ไม่แสดงอาการ : ซึ่งจะไม่เห็นเลยว่าเกิดการติดโรคหรือไม่ จนกว่าจะไปตรวจ
มีอาการเล็กน้อย : ก็ยังต้องใช้การตรวจเป็นหลัก เพื่อเช็คว่าเม็ดเลือดขาวลดลงหรือไม่
อาการรุนแรงมี : แมวจะมีไข้สูงสุดมากถึง 140 องศาฟาเรนไฮต์เลยทีเดียว และยังเบื่ออาหาร เซื่องซึม
การป้องกันที่ดีที่สุดคือการฉีดวัคซีนให้แมวของเรา และการเลี้ยงแบบปิดจะช่วยลดความเสี่ยงในการติดโรคไข้หัดแมวได้นั่นเอง
4. โรคเยื่อบุช่องท้องอักเสบ
เป็นโรคที่ได้วิวัฒนาการมาจาก Corona Virus ที่เราคุ้นชื่อกันดี กับโรคที่ส่งผลโดยตรงกับระบบทางเดินหายใจ โดยโรคนี้ชื่อว่า Feline Peritonitis virus เป็นหนึ่งในโรคที่แมวเล็กนิยมเป็นกันมาก ซึ่งโรคเยื่อบุช่องท้องอักเสบถือเป็นโรคที่จะส่งผลต่อระบบทางเดินอาหารซึ่งการเกิดโรคนี้มักจะเกิดกับแมวที่มีอายุน้อย การสังเกตให้เราดูที่เหงือกคุณจะพบว่า หากแมวเป็นโรคนี้จะมีลักษณะเหงือกเป็นสีขาวซีด หรือสีเหลือง หากเห็นแบบนี้รีบพาน้องไปรักษาได้เลย มีโอกาสเป็นโรคเยื่อบุช่องท้องอักเสบสูง และเพื่อป้องกันโรคนี้กับแมว ให้เราวางถ้วยอาหารให้ห่างจากห้องน้ำแมว หรือทรายแมว และที่สำคัญหมั่นทำความสะอาดบ่อยๆ เท่าที่จะทำได้นั่นเอง
5. โรคพิษสุนัขบ้า
โรคพิษสุนัขบ้า ไม่ใช่โรคที่เกิดได้แค่สุนัขอย่างชื่อเท่านั้นแต่ยังสามารถเกิดกับแมวและสัตว์อื่นๆได้อีกด้วย ซึ่งเชื้อนี้จะติดมาจากสารคัดหลั่งของสัตว์ที่เป็นโรค ไม่ว่าจะเป็นการกัด การข่วน ซึ่งเลวร้ายสุดโรคจะลามไปถึงระบบประสาท และไม่สามารถรักษาได้เลย อาการเบื้องต้นของโรคพิษสุนัขบ้า สัตว์เลี้ยงของเราช่วงแรกจะมีอาการซึมเศร้าไม่มีแรง หมดแรง จากนั้น 2-3 วัน จะมีอาการกระวนกระวาย หงุดหงิดง่าย หากมีอาการแบบนี้ก็เสี่ยงมากที่จะเป็นโรคพิษสุนัขบ้า ซึ่งตามโรงพยาบาลสัตว์ก็มักจะมีตารางการฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันโรคนี้ให้เราอย่างเป็นระยะ หน้าที่ของเราคือต้องพาน้องแมวไปฉีดตามตารางที่หมอนัดเท่านั้นเอง
เป็นอย่างไรบ้างครับกับ 5 โรคสำคัญในแมวสุดฮิต ที่ผู้เลี้ยงต้องรู้ เราหวังว่าบทความนี้จะทำให้เหล่าเราชาวทาสทั้งหลายได้เข้าใจพฤติกรรมของสัตว์เหล่านี้ และความเสี่ยงรวมไปถึงแนวทางการป้องกันไม่ให้เกิดโรคซึ่งหากใครที่ชอบเนื้อหาสาระเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงแบบนี้อีกก็อย่าลืมติดตาม Petsayhi เพื่อที่คุณจะได้ไม่พลาดข้อมูลเด็ดๆ เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงแสนรักนั่นเอง สล็อตแตกง่าย