วันนี้มาเอาใจคนชอบของแปลกกันบ้างกับบทความจาก Petsayhi เรื่องที่เราจะมาเล่าให้ทุกคนได้ฟังกันในวันนี้ เป็นเรื่องของแมวเช่นเดิม แต่ครั้งนี้ แมวที่เรานำมาอาจจะดูมีลักษณะแปลกๆ แตกต่างออกไปจากเดิม นั่นเป็นเพราะแมวของเราจะเปลี่ยนไปใครที่ติดภาพจำแมวน่ารักๆ วันนี้บอกเลยว่าจะมาในอีกรูปแบบหนึ่ง ซึ่งจะเป็นสายพันธุ์แมวที่ผมคัดมาแล้ว เพราะรอบนี้แมวที่คุณจะได้ทำความรู้จัก จะมีลักษณะรูปร่างต่างออกไป โดยลักษณะเด่นของแมวจะเป็นแมวที่มีรูปร่าง หน้าโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์กับ 5 แมวดัดแปลงพันธุกรรม ที่น่ารัก ครองใจชาวทาส เพราะบอกเลยว่าแต่ละสายพันธุ์น่ารักๆ ทั้งนั้นเลย
1. Munchkin
สำหรับน้องแมวตัวแรกที่เรานั้นจะพูดถึงกันคือ Munchkin แมวตัวเล็กน่ารัก ที่ใครหลายคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเป็นหนึ่งในแมวที่น่าเอ็นดู แมวสายพันธุ์นี้จะมีลักษณะเด่นอยู่ที่รูปร่างขนาดเล็ก และลำตัวที่ยาว ตามจริงแล้วแมวชนิดนี้เป็นแมวที่มีสัดส่วนปกติ ค่อนไปทางเล็ก แต่ได้มีการดัดแปลงพันธุกรรมจนกลายมาเป็นเป็นขาโหลดที่มีหน้าตาซื่อๆ ลำตัวของแมว Munchkin จะมีความยาว และมีหางที่ยาวพอๆ กับลำตัว ซึ่งถือเป็นลักษณะเด่นของแมวสายพันธุ์นี้ จะทำให้แมวสายพันธุ์นี้กลายเป็นที่จับตามองของใครหลายคนที่กำลังหาแมวมาเลี้ยงนั่นเอง
2. Sphynx
แมวสฟิงซ์ เป็นหนึ่งในแมวที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวในเรื่องของรูปร่างหน้าตาที่สุดแปลก ด้วยเหตุนี้ทำให้สฟิงซ์ กลายเป็นหนึ่งในแมวแปลกที่ใครต่อใครหลายคนต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าน้องมีความโดดเด่นและจำง่าย ความเข้าใจผิดที่หลายคนไม่รู้กับแมวสฟิงซ์ คงเป็นเรื่องของถิ่นกำเนิดด้วยความเป็นแมวที่มีชื่อสฟิงซ์ เพราะสฟิงซ์เป็นหนึ่งในสัตว์โบราณของชาวอียิปต์ หลายคนจึงเข้าใจว่าแมวชนิดนี้เป็นแมวที่มาจากอียิปต์แต่แท้จริงแล้วแมวชนิดนี้มีถิ่นกำเนิดมาจากแคนาดา ซึ่งโดยเริ่มต้นแล้ว แมวชนิดนี้ไม่มีขน แล่ลักษณะรูปร่างต่างๆ ของแมวก็จะยังไม่ใช่แบบในปัจจุบัน 100% นักดัดแปลงพันธุกรรมจึงได้ดัดแปลงสายพันธุ์แมวชนิดนี้จนได้เป็นแมวสฟิงซ์ ในปัจจุบัน ด้วยลักษณะเด่นของร่างกายที่ไม่มีขน หน้าย่น ตาโต ทำให้หลายคนชอบแมวชนิดนี้มาก เพราะตัดปัญหาเรื่องขนร่วงไปได้เลย
3. Savanah
Savanah เป็นแมวที่มีลักษณะเหมือนกับแมวป่า ซึ่งแมวชนิดนี้ไม่ได้มีการเกิดขึ้นจากการทดลอง หรือผสมใดๆ ของมนุษย์ แต่แมวชนิดนี้เป็นแมวที่ผสมข้ามสายพันธุ์ตามธรรมชาติระหว่างแมวบ้านกับแมวป่า จึงเกิดเป็น Savannah และด้วยลักษณะเด่นของแมวชนิดนี้ที่มีขนาดใหญ่กว่าแมวทั่วไปเล็กน้อย สูง โปร่ง และดูเหมือนปราดเปรียว อีกทั้งยังมีลายสุดแสนจะคล้ายกับเสือ ทำให้หลายคนรู้สึกชอบความแปลกนี้ นอกจากนี้ตัวน้องยังมีความแข็งแรงที่เรียกได้ว่าไม่ต่างจากแมวป่าเลย ชอบปีน ชอบเล่น ที่สำคัญแมวสายพันธุ์นี้รักเจ้าของอย่างมาก ต้องการเวลาอยู่ร่วมกับเจ้าของ เรียกได้ว่าเล่นกันไม่ต่างจากสุนัขเลย
4. Cornish Rex
อันดับต่อมาเป็นสายพันธุ์แมวที่ไม่ค่อยเป็นที่รู้จักและเป็นที่นิยมเท่าไหร่ในบ้านเรา กับแมวขนหยิก Cornish Rex โดยแมวสายพันธุ์นี้ เป็นแมวที่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศอังกฤษในบริเวณที่มีสารเคมีตกค้าง ใกล้กับเหมืองแร่ดีบุก ทำให้แมวสายพันธุ์นี้ได้รับการกลายพันธุ์จากแมวขนปกติทั่วไป ไปเป็นแมวที่มีลักษณะขนหยิกฟู หลายคนบอกว่าลักษณะขนแบบนี้น่าจะมีความเป็นไปได้ที่แมวพยายามปรับตัวจนเกิดการกลายพันธุ์ แต่ข้อดีของขนหยิกฟูของน้องจะทำให้น้องสามารถอยู่ในพื้นที่ ที่มีอากาศหนาวเย็นได้อย่างไม่ต้องกังวล แต่ในการเลี้ยงในบ้านก็ถือได้ว่าเป็นเรื่องยาก เพราะแมวชนิดนี้จะต้องมีการดูแลขนอย่างดี และไม่ชอบอยู่ในที่ร้อน เนื่องจากขนของน้องค่อนข้างหนา และที่สำคัญสามารถเกิดโรคที่เกี่ยวกับผิวหนังได้ง่ายอีกด้วย
5. Bengal
ย้อนไปปี 1970 มีโรคระบาดเกิดขึ้นมาชนิดหนึ่งที่เรียกกันว่า Feline Leukemia Virus เป็นโรคที่เกิดขึ้นมากในแมว ทำให้นักวิจัยเริ่มมีการผสมแมวข้ามสายพันธุ์ โดยในครั้งนั้นได้มีการนำแมวบ้านกับแมวดาวมาผสมเพื่อหวังว่าจะเกิดแมวที่มีภูมิต้านทานโรคดังกล่าว แต่การทดลองก็ล้มเหลว แต่ก็ได้เกิดแมวสายพันธุ์ใหม่ขึ้นมาและเรียกได้ว่าเป็นที่ถูกอกถูกใจของใครหลายคนอย่างมาก นั่นเพราะลวดลายของน้องที่มีความคล้ายกับแมวดาว อีกทั้งแมว Bengal ยังเป็นแมวขี้อ้อน และรักสนุก เล่นได้ทั้งวัน มีพลังล้นเหลือ เหมือนชาร์จแบตมาเต็มพลังตลอดเวลา
เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับ 5 แมวดัดแปลงพันธุกรรม ที่น่ารัก ครองใจชาวทาส ที่ทาง Petsayhi ได้นำมานำเสนอในวันนี้ บอกตามตรงเลยครับว่า แมวดัดแปลงพันธุกรรมเป็นหนึ่งในเรื่องที่เกิดขึ้นมานานแล้ว ไม่ใช่เพียงเพราะเพื่อพัฒนาแมวให้มีความสวยงาม แต่ยังเพื่อให้แมวสามารถเปลี่ยนแปลงลักษณะภูมิคุ้มกัน เพื่อเอาชีวิตรอดให้ได้ และปัจจุบันแมวสายๆ ราคาสูงๆ ก็ล้วนแล้วแต่มาจากการดัดแปลงพันธุกรรมทั้งสิ้น ซึ่งแมวแต่ละชนิดก็จะมีความแตกต่าง และความสมบูรณ์ในเรื่องของรูปลักษณะทางกายภาพที่แตกต่างกันออกไป ทำให้แมวแต่ละชนิดมีความสวยงามต่างกันนั่นเอง