อาการเจ็บป่วยถือเป็นเรื่องที่สามารถเกิดขึ้นได้อยู่แล้วครับไม่ว่าจะกับสัตว์ชนิดไหนก็ตาม ซึ่งอาการเจ็บป่วยนั้นเป็นสิ่งที่เราต้องดูแล และเอาใจใส่ตลอดระยะเวลาที่เลี้ยงน้องอยู่ เพราะการป่วยถือเป็นเรื่องอันตรายสำหรับสัตว์เลี้ยง อย่างที่เรานั้นรู้ดีว่า สัตว์เลี้ยงพูดไม่ได้ เวลาป่วยขึ้นมาแต่ละครั้งจึงเป็นหน้าที่ของเราที่ต้องดูแลน้อง ฉะนั้นการป้องกันไม่ให้เกิดสิ่งเหล่านี้จึงถือเป็นเรื่องที่ดี แต่ก็มีโรคอยู่ไม่กี่ชนิดที่เราไม่สามารถห้ามได้ หรือคิดว่าป้องกันดีแบบสุดๆ แล้วก็ยังไม่พ้นเกิดปัญหาขึ้นอยู่ดี นั่นคืออาการท้องเสีย ซึ่งอย่างที่รู้กันดีว่าแมวของเรานั้นเป็นสัตว์ที่ค่อนข้างอ่อนแอ และป่วยง่าย จึงไม่แปลกที่แมวจะท้องเสียอยู่บ่อยๆ และนั่นเองที่ทำให้เราต้องรู้วิธีจัดการ และปฐมพยาบาลเบื้องต้นของอาการท้องเสีย ก่อนที่จะนำไปส่งให้ถึงมือหมอ และวันนี้ Petayhi ได้นำความรู้มาฝากอีกเช่นเคย จะเป็นอย่างไรครับถ้าแมวของคุณท้องเสีย แต่คุณสามารถปฐมพยาบาลเบื้องต้นได้ และสามารถส่งน้องให้ถึงมือของหมออย่างปลอดภัย คงดีไม่น้อยเลยใช่ไหมครับ และวันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับ 5 ขั้นตอนปฐมพยาบาลเบื้องต้นเมื่อแมวท้องเสีย ที่ผมรวบรวมมาให้ในวันนี้ รับรองว่าอ่านจบได้อะไรมากขึ้นแน่นอน
1. สังเกตอาการให้เป็น
ก่อนที่เราจะไปทำความเข้าใจกันครับว่าแมวเวลาท้องเสียต้องทำอย่างไร ผมอยากให้ทุกท่านสังเกตพฤติกรรมเหล่านี้กันก่อนนะครับ สิ่งแรกที่เราสังเกตได้ง่ายที่สุดและเป็นสิ่งที่เชื่อว่าใครหลายคนก็คงรู้ได้เบื้องต้นครับว่าเป็นอาการท้องเสียคือลักษณะของอุจจาระ โดยลักษณะนั้นจะมีรูปแบบเป็นของเหลว ไม่จับตัวเป็นก้อน โดยปกติเวลาน้องอึจะมีความเป็นก้อนแข็ง แต่ถ้าเป็นท้องเสียนี่แทบไหลออกมาเลยครับ ส่วนอีกสิ่งที่เราสามารถสังเกตและรู้ได้ทันทีนั่นคือเรื่องของเสียงครับ โดยจะเป็นเสียงเหมือนพยายามเบ่ง และออกมาพร้อมกับลมครับ ซึ่งเป็นสิ่งที่เราต้องสังเกตให้ดีโดยอาการเหล่านี้จะเป็นอาการที่สามารถบอกได้เบื้องต้นครับ แต่จะไม่ชัดเจนเท่ากับลักษณะของอึน้อง
2. พยายามให้น้ำน้อง
ต้องบอกแบบนี้ครับว่าเวลาที่น้องท้องเสียนี่ สิ่งที่น้องขาด และต้องการมากที่สุดคือน้ำครับ เพราะในการถ่ายออกมาน้ำคือส่วนผสมหลักที่ออกมามากที่สุด จึงจำเป็นอย่างมากครับที่ผู้เลี้ยงอย่างเราจะต้องหาน้ำให้น้องกินตลอด เพื่อลดความเสี่ยงจากการชัก หรือหมดแรง เพราะถ้าเกิด 2 อาการนี้ โอกาสที่น้องจะเกิดอันตรายก็มีสูงมากขึ้นเช่นกันครับ นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ว่าทำไมเราต้องให้น้ำน้องอยู่ตลอดเวลา โดยการป้อนน้ำสามารถทำได้หลากหลายวิธี ทั้งการให้น้ำแบบปกติ แต่ถ้าน้องไม่กินก็ลองเอาน้ำพุแมวมาให้น้อง ถ้าน้องยังไม่กินอีก อาจจะต้องใช้ไซริงในการฉีดน้ำเข้าไปที่ปากน้องเพื่อให้น้ำอย่างรวดเร็วครับ จากนั้นจึงนำน้องส่ง โรงพยาบาลเมื่ออาการคงที่แล้ว
3. สังเกตพฤติกรรมการกินอาหาร
โดยเฉลี่ยต่อวัน แมวของเราจะกินอาหารตกอยู่ประมาณ 5 – 8 รอบต่อวัน ซึ่งเป็นพฤติกรรมปก แต่ถ้าคุณเห็นว่าน้องเริ่มซึม หรือกินอาหารน้อยลงก็ให้ตีความไว้เลยครับว่า สาเหตุนั้นอาจมาจากการเกิดภาวะท้องเสีย ซึ่งสามารถเกิดได้กับแมวทุกตัว โดยเฉพาะกับช่วงเปลี่ยนอาหาร ให้เราลองสังเกตพฤติกรรมร่วมกันกับอึของน้องครับ เพื่อดูว่าสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นอยู่เกิดจากอะไร และเราจะสามารถหาทางป้องกัน หรือวิธีแก้ไขนี้ได้อย่างไร ข้อดีของการสังเกตพฤติกรรมน้องแมวว่าเป็นอะไร เราจะได้ประเมินความเสี่ยงถูกและนำส่งโรงพยาบาลได้ทันก่อนที่น้องแมวจะมีป่วย และรักษาไม่ทันนั่นเอง
4. รีบพาน้องส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน
ไม่ว่าคุณจะเห็นอาการก่อน หรือหลังจากที่เกิดอาการแล้ว สิ่งที่คุณต้องไปทันทีเลยคือโรงพยาบาลสัตว์ครับ เพราะโรงพยาบาลสัตว์ถือเป็นจุดที่จะช่วยเหลือน้องได้ในทุกทาง และวินิจฉัยว่าน้องแมวของเรานั้นเป็นอะไร ซึ่งสิ่งนี้เองก็ถือเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะเราจะไม่มีทางรู้ได้เลยครับว่าตอนนี้แมวของเรานั้นกำลังเป็นอะไรอยู่ และทางที่ดีที่สุด และปลอดภัยมากที่สุดคือการไปที่โรงพยาบาลครับ ผมขอเตือนไว้เลยนะครับ ต่อให้คุณมีความรู้มากแค่ไหน หรือศึกษาข้อมูลต่างๆ จากอินเทอร์เน็ตมามากเพียงใด อย่าเชื่อข้อมูลเหล่านั้นมากครับ เพื่อให้น้องปลอดภัยที่สุดน้องควรถึงมือหมอให้เร็วที่สุดครับ นอกจากน้องจะไม่เป็นอะไรแล้ว เรายังสามารถปรึกษาคุณหมอได้อีกด้วยครับ เรียกได้ว่าหลายเรื่องเลยครับ
เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับ 5 ขั้นตอนปฐมพยาบาลเบื้องต้นเมื่อแมวท้องเสีย ที่ทาง Petsayhi ได้นำมาฝากทุกท่านกันในวันนี้ ถือเป็นเรื่องที่ดีมากเลยครับ กับการเตรียมความรู้ เตรียมการไว้เมื่อน้องมีอาการท้องเสีย และสิ่งที่ผมอยากแนะนำเป็นอย่างสุดท้ายคือเรื่องของอาหารครับ ก่อนให้น้องกินควรเช็กก่อนว่าอาหารหมดอายุไหม มีราไหม และเราไม่ควรเปลี่ยนอาหารน้องบ่อยเกินไปครับเพราะจะทำให้น้องท้องเสียได้ง่ายขึ้นมากเลยครับ และถ้าคุณไม่อยากพลาดบทความเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงที่เป็นประโยชน์ต่อทั้งตัวคุณและต่อทั้งสัตว์เลี้ยงของคุณอย่าลืมเข้ามาอ่านบทความดีๆ แบบนี้อีกที่ Petsayhi นะครับ เว็บสล็อต