โรคไทรอยด์ในแมว อันตรายใกล้ตัว ที่ห้ามมองข้าม

น้องแมว

สารบัญ

วันนี้ Petsayhi กลับมาอีกครั้งครับ และครั้งนี้เรามาพร้อมกับ โรคในแมวที่น่าสนใจ ซึ่งผมบอกไว้ก่อนเลยครับว่า โรคในแมวมีมากมาย เหตุผลที่โรคของแมวมีมากมาย เกิดจากการที่แมวของเรานั้นมีภูมิต้านทานต่ำ ทำให้เมื่อได้รับเชื้อจะไม่สามารถสร้างภูมิต้านทานที่มากพอมาต่อสู้ได้เลย และนั่นทำให้เราต้องดูแลแมวเป็นพิเศษ ซึ่งโรคในแมวก็มักจะถูกวางโครงป้องกันไว้ตั้งแต่เด็กโดยเฉพาะกับโรครุนแรงที่มีความเสี่ยงจะเกิดขึ้นได้ง่ายๆ จึงได้มีการฉีดวัคซีนตามอายุให้กับแมว เพื่อป้องกันการเกิดโรคและความเสี่ยงที่จะเกิดกับแมวนั่นเอง แต่มีโรคหนึ่งครับที่มีความรุนแรงอย่างมาก หากแมวตัวไหนเป็นเรียกได้ว่าน่าสงสารเลยครับ กับโรคที่มีชื่อว่า โรคไทรอยด์ในแมว ถือเป็นอันตรายใกล้ตัวที่เราต้องจัดการให้ดี เพราะโรคนี้เกิดกับแมวหลายบ้าน และการรักษาก็เรียกได้ว่ายาก และแพงมากอีกด้วย ซึ่งวันนี้ผมจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับโรคนี้ให้มากขึ้นว่า ติดได้อย่างไร อาการเมื่อติดจะเป็นอย่างไร และแน่นอนว่าการรักษาโรคโรคไทรอยด์ในแมวมีวิธีการ กระบวนการอย่างไรบ้าง ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลยครับ

ไทรอยด์ในแมว โรคที่มีความเสี่ยงสูงในแมวอายุมาก

ไทรอยด์ในแมว โรคที่มีความเสี่ยงสูงในแมวอายุมาก

ถ้าเชื้อราในแมวเกิดกับลูกแมว โรคที่เป็นขึ้นตรงข้ามก็คงหนีไม่พ้น โรคไทรอยด์ในแมว เพราะโรคนี้นิยมเกิดกับแมวที่มีอายุมาก โดยเฉลี่ยอายุของแมวจะอยู่ที่ 10 – 25 ปี แต่โรคไทรอยด์ในแมวมักจะเกิดในช่วงอายุเฉลี่ยคือประมาณ 13 ปี แต่ตามหลักแล้วแมวนั้นสามารถเกิดโรคนี้ได้ตัวแต่อายุ 4 ปี ไปจนถึงอายุ 22 ปีเลยครับ ถือได้ว่าเป็นช่วงที่ค่อนข้างกว้างมากเลยสำหรับการเกิดโรคนี้ ดังนั้นผู้เลี้ยงอย่างเราต้องสังเกตให้บ่อยๆ โรคนี้สามารถเกิดได้กับแมวทุกตัวเลย แน่นอนว่ายิ่งอายุเยอะยิ่งเสี่ยงสูงครับ

โรคไทรอยด์ในแมวเกิดจากอะไร เกิดได้อย่างไร?

โรคไทรอยด์ในแมวเกิดจากอะไร เกิดได้อย่างไร?

หากเราจะลงลึกกันที่โรคนี้ ขอบอกไว้ก่อนครับว่าโรคไทรอยด์ในแมว เป็นโรคที่เกิดตามอายุ เหมือนโรคชราครับ ที่จะส่งผลกับอายุของคนเมื่อมากขึ้นก็จะมีการเสื่อมสภาพของส่วนต่างๆ ในร่างกาย แมวเองก็เช่นกันครับเมื่ออายุมากขึ้นจะมีต่อชนิดหนึ่งที่ชื่อว่าต่อมไทรอยด์ ต่อมนี้จะผลิตฮอร์โมนออกมาเช่นเดียวกับต่อมอื่นๆ ในร่างกาย แต่สิ่งที่ต่างออกไปคือต่อมนี้จะผลิตเฉพาะฮอร์โมนไทรอยด์ออกมาเป็นจำนวนมาก ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่ดีเลย เพราะแมวของเราจะมีระบบต่างๆ ในร่างกายที่รวน ผิดปกติ อาจหนักไปถึงขั้นเสียชีวิตได้เลยครับ หากใครเลี้ยงแมวก็ต้องคอยระวังให้ดี ซึ่งเราสามารถสำรวจอาการเบื้องต้นได้ง่ายๆ ครับว่าแมวของเรานั้นมีความเสี่ยงหรือไม่ที่จะเป็นไทรอยด์

อาการที่สามารถสังเกตได้ง่าย ๆ

อาการที่สามารถสังเกตได้ง่าย ๆ

อาการที่บอกได้เลยครับว่าน้องเป็นไทรอยด์ คือเรื่องของลักษณะนิสัยที่เปลี่ยนไป โดยจะชัดมากกับแมวที่เคยเรียบร้อย ใจดี ถ้าน้องเป็นไทรอยด์ ฮอร์โมนจะผลิตออกมาเกินจำนวนที่ต้องใช้งาน ส่งผลต่อพฤติกรรมของน้องโดยตรงเลย โดยน้องจะมีอาการก้าวร้าวมากขึ้นแบบน่าตกใจ และชอบเก็บตัวอยู่ตัวเดียว ห่างจากเจ้าของ เข้าหายากขึ้น ขี้รำคาญ แน่นอนว่าจะส่งผลต่อการใช้ชีวิต และเรื่องของความสะอาดอย่างการอาบน้ำ ผลที่ตามมานอกจากนั้นคือความเสี่ยงของการติดเชื้อต่างๆ จากความไม่สะอาด หรือน้องบางตัว มีอาการหนักถึงขั้นเบื่ออาหาร ไม่ยอมกินเลย ไม่ว่าจะยัด จะป้อนยังไงก็ไม่กิน ซึ่งอาการเหล่านี้ถือเป็นอาการในช่วงต้น เราสามารถสังเกตได้ง่ายๆ ไม่มีอะไรที่น่าเป็นห่วงเท่าไหร่ แต่อาการต่อจากนี้คืออาการที่เราจะต้องระวังให้ดี เพราะหากเกิดขึ้น คุณอาจรักษาน้องไว้ไม่ทัน อย่างแรกเลยคืออาการท้องเสียในแมว หรือการอาเจียนอย่างหนัก จะส่งผลให้น้องเริ่มหมดแรง และระบบในร่างกายจะเกิดการรวน หนักสุดถึงขั้นระบบไหลเวียนของเลือดมีปัญหา และเกิดเสียงฟู่ในหัวใจของน้อง ซึ่งหากใช้เครื่องมือของสัตวแพทย์จะได้ยินเสียงฟู่นี้อย่างชัดเจนเลยครับ จึงเป็นช่วงที่ค่อนข้างอันตรายอย่างมากเลยครับสำหรับใครก็ตามที่เลี้ยงแมว

การรักษา และการดูแล

การรักษา และการดูแล

โรคนี้จะเกิดและส่งผลหนักที่สุดกับระบบไหลเวียนของเลือด เราจึงต้องสังเกตอาการของน้อง และรีบพาน้องส่งโรงพยาบาลสัตว์โดยเร็ว เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากระบบไหลเวียนของเลือด ซึ่งหมอจะทำการเจาะเลือดเพื่อตรวจดูว่าน้องมีความเสี่ยงหรือไม่ โดยใช้การวัดความดันและถ่ายภาพจากรังสีร่วมด้วย และแมวหลายตัวที่เป็นโรคนี้ และไม่ค่อยกินน้ำ มีภาวะโรคไตเสี่ยงร่วมอยู่ในนั้นอีกด้วย การรักษาจะใช้ยาต้านไทรอยด์ที่ทางสัตวแพทย์ให้ไว้ จากนั้นจะทำการตัดต่อมไทรอยด์นี้ออกจากตัวน้อง เพื่อป้องกันไม่ให้ฮอร์โมนตัวนี้ผลิตออกมาอีก ซึ่งหากไม่ทำการรักษา อาจส่งผลถึงภาวะหัวใจวายได้เลยครับ

เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับ โรคไทรอยด์ในแมว อันตรายใกล้ตัว ที่ห้ามมองข้ามที่ทาง Petsayhi ได้นำมาฝากคุณในวันนี้บอกได้เลยครับว่าเป็นสิ่งสำคัญ และถือเป็นเรื่องที่น่ากลัวมากที่ผู้เลี้ยงแมวต้องรู้ ซึ่งหากเราสังเกตอาการเบื้องต้น อาจจะไม่ชัดเจน เพราะบางครั้งแมวของเราก็ชอบหงุดหงิด ไม่อยากให้ใครมายุ่ง และขู่เรา อย่างไรก็ตาม หากมีความเสี่ยง ทางที่ดี คุณควรพาน้องแมวไปตรวจเพื่อความสบายใจ เพื่อให้น้องได้อยู่กับเราได้นานมากที่สุด บาคาร่าออนไลน์

Poster 24

Poster 24

ผู้คว่ำหวอดในวงการสัตว์เลี้ยงแนวหน้าในประเทศไทย