แมวอวกขนออกมา คืออะไร ต้องดูแลอย่างไร

น้องแมว

สารบัญ

ปกติแล้วเวลาที่เราเลี้ยงแมว น้องก็มักจะมีการดูแล ทำความสะอาดร่างกายทั้งจากตัวของเราเหล่าผู้เลี้ยง และตัวน้องเองก็เรียกได้ว่ามีการดูแลไม่มีขาดกันเลยครับ ซึ่งก็ถือเป็นเรื่องปกติ และดูจะเป็นเรื่องทั่วไปอย่างมากเลยครับ เพราะเวลาที่น้องแมวของเราเลียขนนั้นน้องจะรู้สึกสะอาดตัว แต่ถ้าให้แนะนำ เป็นไปได้เราไม่ควรให้น้องแมวของเราเลียขนเด็ดขาดครับ เพราะอย่างที่รู้ดีว่าทั้งเรื่องของสิ่งสกปรก เชื้อโรคต่างๆ ที่พร้อมจะเข้ามาทำลายร่างกายของแมวนั้นมีมากมาย โดยเฉพาะกับที่ติดอยู่ตามตัวน้องเรียกได้ว่าน่ากลัวไม่เบาเลยครับ และนั่นจึงทำให้แมวของเรานั้นมีความอันตรายจากการทำความสะอาดตัว ที่สำคัญหากเป็นน้องแมวขนยาวๆ คุณจะเห็นเลยว่า จะมีขนร่วงบ่อยๆ ตามร่างกายของน้อง และเวลาแมวทำความสะอาดขน แน่นอนครับว่าน้องต้องกินเข้าไปด้วย และเราจะทำอย่างไรกันดี สิ่งนี้จะส่งผลเสียต่อน้องๆ ไหม และเราต้องดูแลน้องแมวของเราอย่างไร อาการอวกขนที่น้องแสดงออกมาหลังจากนั้นเกี่ยวข้องกับพฤติกรรมนี้หรือไม่ สำคัญอย่างไร วันนี้ผมจะพาทุกคนไปดูกันครับว่าสิ่งนี้มีผลอย่างไรกับการใช้ชีวิตของน้องแมวใน แมวอวกขนออกมา คืออะไร ต้องดูแลอย่างไร

ทำไมแมวถึงอวกออกมาเป็นขน?

ทำไมแมวถึงอวกออกมาเป็นขน?

ก่อนอื่นขอบอกไว้ก่อนเลยครับว่าการอวกออกมาเป็นขนถือเป็นพฤติกรรมทางธรรมชาติ ที่เกิดจากการการทำความสะอาดตัว ผมบอกไว้เลยครับว่าพฤติกรรมเหล่านี้ไม่ได้ผิดแปลกอะไรเลย หากเรารู้จักกระบวนการย่อยอาหารของแมวแล้ว การอวกออกมาเป็นขนถือเป็นเรื่องปกติครับ เพราะโดยปกติแล้ว แมวของเรานั้นจะมีการทำความสะอาดขนที่เรียกได้ว่าทำกันทุกวันเป็นประจำ และในทุกครั้งที่มีการทำความสะอาด น้องแมวของเรานั้นก็จะมีการเลียขน ซึ่งการเลียขนนี้เองถือเป็นวิธีการดูแล และทำความสะอาดตัวเองที่น้องสามารถทำเองได้ หากเป็นช่วงที่น้องผลัดขน หรือมีขนร่วง เป็นไปได้สูงเลยครับที่น้องแมวของเรานั้นจะมีขนติดไปที่ลิ้น และเข้าสู่ลำคอ แต่อย่างที่ทราบกันดีครับว่า ไม่ใช่อันตรายอะไรมาก เวลาที่ขนเข้าไปในคอขนจะถูกกรองไว้ ด้วยกระบวนการของร่างกาย และจะถูกคย่อนออกมา เมื่อมีจำนวนมากขึ้น ถือเป็นเรื่องปกติมากๆ เลยครับ

สัญญาณเตือนว่ามีขนอยู่ในลำคอ

สัญญาณเตือนว่ามีขนอยู่ในลำคอ

หากถามกันต่อก็คงต้องถามว่า แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรกันครับว่าแบบไหนที่เรียบกว่ามีขนติดในลำคอ นอกจากรอให้น้องแมวของเรานั้นอวกออกมาแล้ว มีวิธีอื่นๆ อีกไหม ที่จะช่วยให้เรานั้นสามารถสังเกตน้องแมวได้หรือไม่ บอกเลยครับว่ามีแน่นอนเพราะโดยปกติเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับระบบอาหาร กล่องเสียง และลำคอโดยตรงอยู่แล้วครับ ทำให้การสังเกตอาการนั้นดูได้จาก 3 ส่วนนี้ แต่ที่ชัดเจนที่สุดคือเสียงน้องแมวเวลาที่น้องร้องออกมาครับ การร้องออกมาในแต่ละครั้งของน้องแมว ถือได้ว่าเป็นสิ่งที่หลายคนอาจจะรู้สึกแปลกๆ เวลาที่น้องร้องออกมาแบบปกติ แต่มีเสียงที่แหบๆ ไม่เหมือนเดิม หากเห็นอาการนี้ให้เรารู้ได้เลยครับว่า น้องเริ่มมีขนติดในลำคอมากขึ้นกว่าปกติแล้ว หากเกิดวิธีนี้ขึ้นเราจะทำอะไรไม่ได้มาไปกว่าการรอให้น้องอวกออกมาเลยครับ

วิธีดูแลน้องแมวเมื่อน้องเกิดอาการอวก

วิธีดูแลน้องแมวเมื่อน้องเกิดอาการอวก

หากน้องอวกออกมาแล้ว ไม่มีวิธีอื่นที่เราสามารถทำได้เลยครับนอกจากการเก็บ ขอแนะนำให้เลี่ยงการสัมผัสโดยตรง แต่ใช้เป็นการนำทิชชูหนาๆ มาวงทับบริเวณอวกของน้องแมว จากนั้นรอให้น้ำถูกดูดซึมลงไปในทิชชู และเก็บกากเหล่านั้นขึ้นมา เราห้ามดุหรือตีน้องเด็ดขาดนะครับ เพราะนี่คือกระบวนการของร่างกายแมว ที่ไม่สามารถเอาชีวิตรอดได้ เราอาจให้เป็นรางวัลกับเขา หรือให้ขนมกับเขาแทน เพื่อให้น้องไม่รู้สึกกลัว และออกไปอวกจุดอื่นที่เรามองไม่เห็น บางตัวเมื่ออวกออกมาแล้วจะมีอาการอ่อนเพลีย ไร้เรี่ยวแรง และซึม บางตัวก็ปกติครับ ฉะนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร หลักจากอวกแล้วปล่อยให้น้องได้พักสักหน่อยก็ดีครับ

ส่วนวิธีการดูแลรักษา และป้องกัน

ส่วนวิธีการดูแลรักษา และป้องกัน

สำหรับใครที่กำลังหาทางป้องกัน รักษาแมวของเราให้มีชีวิตรอดปลอดภัย อยู่อย่างสงบสุข ไม่อวกเลย อาจจะต้องตัดฝันว่าทำได้แค่ในแมวขนสั้นครับ แต่ถ้าเป็นแมวขนยาว คุณต้องดูแลอย่างดีเลยครับ เพราะน้องแมวของเรานั้นจะมีการทำความสะอาดตัวเองบ่อยๆ วิธีการง่ายๆ 2 วิธี ที่ผมอยากนำเสนอทุกคนวันนี้อาจผ่อนหนักให้กลายเป็นเบาได้ อย่างแรกคือการเลือกอาการที่บำรุงขน ลดอาการขนร่วง แล้วเพิ่มภูมิต้านทานให้กับน้อง เพื่อให้น้องแมวของเรานั้นลดความเสี่ยงที่ขนจะร่วงติดไปในลำคอ กับวิธีการที่เรียกได้ว่าง่ายที่สุดคือการแปรงขนให้แมวของเราอยู่เป็นประจำ หากทำทั้ง 2 วิธีนี้ได้อย่างดี รับรองว่าสามารถลดอาการดังกล่าวลงได้แบบที่คุณไม่ต้องมานั่งห่วงหรือกังวลอย่างแน่นอน

เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับ แมวอวกขนออกมา คืออะไร ต้องดูแลอย่างไร ที่ทาง Petsayhi ได้นำมาฝากในวันนี้ เวลาที่แมวเกิดอาการอะไรก็ตาม สิ่งที่เราทุกคนควรมีและต้องมีมากที่สุดคือเรื่องของสติครับ เพื่อหาทางป้องกัน และหาวิธีดูแลจัดการน้องกับอาการดังกล่าว ควรมีสติเพื่อพิจารณาอย่างเคสนี้ถ้าไม่มีสติกับความรู้คุณจะเสียเวลาฟรีกับพฤติกรรมธรรมชาติ และต้องพาน้องไปหาหมอ เผลอๆ อาจจะได้เสียเงินเพิ่มด้วยนะครับ สล็อตออนไลน์

Poster 24

Poster 24

ผู้คว่ำหวอดในวงการสัตว์เลี้ยงแนวหน้าในประเทศไทย