ผมเชื่อว่าในการเลี้ยงแมวนั้น เหล่าทาสแมวจะต้องสงสัยกับพฤติกรรมของเจ้าเหมียวบางอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นเมื่อเจ้าเหมียวติดสัดเราควรทำยังไงดี? หากทำหมันแมวจะบาปไหม? หากจะไม่อยู่บ้านหลายวันต้องทำอย่างไรกับเจ้าเหมียวดี? ฉะนั้นวันนี้ผมจะพาทุกท่านมาไขข้อสงสัยกับคำถามที่ทาสแมวหลายคนอาจสงสัย และไม่รู้คำตอบสักที ซึ่งคำถามเหล่านี้ที่ผมได้คัดมานี้ล้วนเป็นสิ่งที่น่าสนใจอย่างแน่นอน เราไปดูกันดีกว่าครับว่ามีคำถามไหนที่ผู้อ่านกำลังสงสัยอยู่เหมือนกันหรือไม่ โดยมีดังนี้
1. คำถาม: เมื่อแมวติดสัดแล้วชอบปีนหน้าต่างเพื่อจะหนีออกจากบ้าน แถมยังชอบพ้นกลิ่นรอบบ้านต้องทำอย่างไรดี?
ช่วงเจ้าเหมียวอายุ 6-8 เดือน ฮอร์โมนเพศจะทำงานและเริ่มแสดงอาการเป็นสัด ซึ่งส่วนมากแล้วแมวตัวเมียจะมีอาการเป็นสัดก่อนตัวผู้ และเมื่อแมวมีอาการเป็นสัดนี้จะเริ่มมีปัญหาตามมา นอกจากการส่งเสียงร้อนในตอนกลางคืนเพื่อเรียนเพศตรงข้ามแล้ว ยังชอบที่จะหนีออกจากบ้านตลอดเวลาอีกด้วย และหากเลี้ยงมากกว่า 1 ตัวแล้วละก็ตัวที่เป็นสัดจะชอบพ่นกลิ่นรอบบ้านหรือเรียกว่า การสเปรย์นั่นเองซึ่งจะส่งผลให้บ้านมีกลิ่นเหม็น ซึ่งสิ่งเดียวที่จะสามารถแก้ปัญหาเรื่องนี้ได้คือ ในประเทศไทยแพทย์จะแนะนำให้ทำหมันเมื่อแมวอายุครบ 1 ปีเนื่องจากแมวมีสุขภาพร่างกายแข็งแรงเต็มที่
2. คำถาม: อยากที่จะทำหมันแมว ทำตัวตัวไหนดีระหว่างตัวผู้กับตัวเมีย และหากทำจะบาปไหม?
ในการทำหมันนั้นผู้เลี้ยงควรจะพิจารณาความต้องการของทั้งตัวเองและสมาชิกภายในบ้านก่อนหรือไม่ โดยพิจารณาจากสิ่งเหล่านี้
– บ้านต้องการแมวเพิ่มไหม
– มีความพร้อมในการรับมือทั้งเรื่องในการทำคลอดแมวและลูกแมวหากอยู่ในช่วงวิกฤติหรือไม่
– ผู้เลี้ยงพร้อมที่จะรับปัญหาในเรื่องของกลิ่นเหม็นของฟีโรโมนที่ปนกับปัสสาวะที่แมวจะพ้นรอบบ้านในช่วงติดสัดหรือไม่
– เตรียมพร้อมกับการรับมือกับค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นหลังจากนั้นหรือไม่ ทั้งเรื่องของ ค่าอาหารที่จะต้องเพิ่มมากขึ้น ค่าวัคซีนที่ควรทำให้แมวให้ครบถ้วน และอื่นๆ อีกมากมาย
กรณีทำหมัน
หากผู้เลี้ยงพิจารณาข้อข้างต้นแล้วพบว่ายังไม่พร้อมกับสิ่งเหล่านั้น การเลือกในการทำหมันก็เป็นสิ่งที่ดีกว่า ผมคิดว่าหลายๆ คนคงคิดว่าการทำหมันเป็นบาปเนื่องจากเป็นการฆ่าสัตว์ที่ผิดศีลธรรมหรือไม่ แต่หากมองกันจริงๆ แล้วการทำหมันแมวถือเป็นวิธีหนึ่งที่จะช่วยลดปริมาณแมวจรจัดลงซึ่งเราจะเห็นได้อย่างมากมายในประเทศไทย
ซึ่งแมวจรหรือสัตว์จรจัดเหล่านี้มีผลเสียมากกว่าผลดีอย่างแน่นอน เช่น เรื่องความสกปรกที่อาจเกิดขึ้นจากการจับถ่ายที่ไม่เป็นที่และไม่มีคนดูแล การกระจายของแมวจรไปเรื่อยๆ นอกจากนี้การทำหมันยังเป็นการช่วยป้องกันโรคระบาดที่เกิดในแมวให้ลดลงได้อีกด้วย เนื่องจากโรคระบาดในแมวบางโรคนั้นสามารถแพร่กระจายและติดต่อกันได้อย่างรวดเร็ว และโรคยังตายยากอีกด้วย ซึ่งสิ่งนี้จะทำให้ลูกแมวส่วนใหญ่มีอัตราการเสียชีวิตจากโรคระบายได้ง่ายขึ้นอีกด้วย
กรณีไม่ทำหมัน
หากไม่ทำหมันสิ่งที่สำคัญคือ ผู้เลี้ยงจะต้องเข้าใจและรับได้กับพฤติกรรมของเขาให้ได้เมื่อเขามีอาการเป็นสัด เนื่องจากเมื่อแมวเป็นสัดโดยธรรมชาติของเขาชอบที่จะพ่นกลิ่นฟีโรโมนไปรอบๆ อีกด้วยเพื่อล่อแมวเพศตรงข้าม แถมยังชอบหนีออกจากบ้านอีกด้วยซึ่งหากหนีออกไปได้ เมื่อกลับมาก็จะกลับมาพร้อมกับร่างกายที่ทรุดโทรม ผอม และมีบาดแผลที่เกิดจากการต่อสู้แย่งชิงตัวเมียกับแมวตัวอื่น ซึ่งสิ่งนี้จึงเป็นพฤติกรรมที่เสี่ยงกับการติดโรคระบาดอย่างมาก นอกจากนี้เขายังจะส่งเสียงร้องทั้งคืนเพื่อเรียกร้องหาเพศตรงข้ามอีกด้วย ฉะนั้นหากเลือกที่จะไม่ทำหมันแล้วผู้เลี้ยงก็ควรที่จะดูแลและเข้าใจเขาให้มากเป็นพิเศษในช่วงนั้น
ส่วนคำถามสุดท้ายคือ ควรทำหมันให้แมวตัวผู้หรือแมวตัวเมียดี สำหรับข้อสงสัยนี้ไม่มีตำตอบที่ตายตัว โดยผู้เลี้ยงส่วนใหญ่ก็นิยมในการทำหมันทั้ง 2 เพศ แต่นอกจากข้อดีในการทำหมันที่ผมได้กล่าวมาก่อนหน้านี้แล้ว การทำหมันแมวทั้งตัวผู้และตัวเมียยังมีข้อดีในการป้องกันโรคที่อาจเกิดขึ้นเมื่อแมวมีอายุที่มากขึ้นด้วยเช่นกัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับความพอใจของผู้เลี้ยง เนื่องจากในการทำหมันนั้นก็มีค่าใช้จ่ายเช่นกันคือตัวเมียจะมีค่าทำที่สูงกว่าตัวผู้ นอกจากนี้ยังมีบาดแผลที่กว้างกว่า และสามารถหายได้ยากกว่าด้วย
3. คำถาม: หากจะไม่อยู่บ้านหลายวันต้องทำอย่างไรกับเจ้าเหมียวดี?
ผมเชื่อว่าคำถามนี้เป็นตำถามที่ทาสแมวหลายคนจะต้องสงสัยกันอย่างแน่นอน ฉะนั้นในหัวข้อนี้ก็มีสิ่งที่ควรจะคำนึงถึงเช่นกัน
– ต้องพิจารณาอย่างแรกว่าเราเลี้ยงแมวกี่ตัว หากฝากแมวของเราไว้กับญาติหรือเพื่อนที่ชอบจะสร้างภาระเพิ่มขึ้นหรือไม่ หรือผู้รับฝากจะโอเคหรือไม่
– ส่วนหากผู้เลี้ยงจะไม่อยู่ 1-2 ผู้เลี้ยงสามารถปล่อยให้แมวอยู่กันเองได้ แต่ควรจะเตรียมอาหารและน้ำให้เพียงพอ จากนั้นให้เพิ่มกระบะทรายให้มากขึ้นเพื่อป้องกันไม่ให้เลอะเทอะออกมานอกกระบะจนกว่าที่เราจะกลับ
– หากต้องการที่จะฝากแมวที่ร้านก็สามารถทำได้เช่นกัน แต่ผู้เลี้ยงควรเลือกโรงแรมแมวที่มีความสะอาดและดูแลแมวดีพอกับเรา เนื่องจากแมวเป็นสัตว์ที่สามารถหวาดกลัวและเครียดได้ง่ายยิ่งหากต้องอยู่ในสถานที่ที่แปลกหรือไม่คุ้นชินก็มักจะไม่กินอาหารหรือไม่ถ่าย ซึ่งสิ่งนี้สามารถป้องกันด้วยการให้เจ้าของนำอาหารและกระบะทรายที่เขาใช้ปกติไปให้ด้วยจะช่วยลดความเครียดของเขาลงได้
– แต่ในกรณีที่จะปล่อยให้เจ้าเหมียวอยู่ที่บ้านกันเอง ผู้เลี้ยงจะต้องเตรียมรับมือกับการทำความสะอาดหลังจากที่กลับมา เนื่องจากแมวบางตัวอาจจะเครียดง่ายและชอบทำลายข้าวของเมื่อเจ้าของไม่อยู่บ้าน แต่กลับกันก็มีบางตัวที่จะไม่ยอมกินข้างและส่งผลให้เกิดอาการซึมเศร้าได้