กลับมาเจอกันอีกครั้งนะครับกับ Petsayhi เว็บไซต์รวบรวมข้อมูลสัตว์เลี้ยงที่บอกได้คำเดียวเลยว่าเป็นเว็บไซต์ที่มีคุณภาพ และเป็นแหล่งรวมของทุกเรื่องเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงที่ทุกคนชื่นชอบ และวันนี้เราได้มากันอีกครั้ง ในเรื่องของแมวเหมียวอีกเช่นเคย ด้วยความที่ทาสแมวในเมืองไทยมีไม่ใช่น้อยๆ เลย ทำให้ปัญหาที่ทุกคนต่างสงสัยก็มากขึ้นไปด้วยเช่นกัน โดยเรื่องราวในวันนี้จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการทำความเข้าใจ และไม่ใช่อะไรที่ใหม่มากเกินไป แต่เป็นเรื่องที่เราทุกคนนั้นต้องทำความเข้าใจกับการ “ทำหมันน้องแมว” เพราะในการทำหมันนั้นหลายคนรู้สึกว่าเป็นเรื่องของการทรมานสัตว์ไปมากกว่าการรักษาทางการแพทย์ และด้วยความคิดที่แตกต่างของผู้เลี้ยงเอง จึงทำให้ผู้เลี้ยงแบ่งออกเป็น 2 ฝ่ายกับทัศนคติเกี่ยวกับการทำหมันนี้เอง และวันนี้ Petsayhi จะมาไขข้อข้องใจกันครับว่าในการเลี้ยงแมว เราควรทำหมันไหม หากทำต้องเป็นกรณีไหน และการทำหมันแมวมีอะไรที่น่าเป็นห่วงไหม หากพร้อมแล้วไปดูกันเลยครับกับ ข้อดีของการทำหมันแมวที่ผู้เลี้ยงต้องทำความเข้าใจ
การทำหมันเกิดจากการเกิดอาการติดสัดของแมว
แมวทุกตัวไม่ว่าจะเป็นตัวผู้ หรือตัวเมียก็ตามแต่ ต่างมีอาการหนึ่งที่จะเกิดขึ้นเมื่อถึงช่วงอายุหนึ่ง อาการนั้นเราจะเรียกว่าอาการติดสัด ซึ่งอาการนี้เรียกได้ว่าเป็นเรื่องปกติของแมวทุกตัวบนโลกที่ต้องมีอาการติดสัด หากจะอธิบายให้เข้าใจง่ายๆ คือเมื่อถึงช่วงอายุหนึ่ง แมวจะเริ่มอยากหาคู่ เพื่อสืบพันธุ์ และแมวที่เป็นแมวเลี้ยงในบ้านของเราเองก็เช่นกัน หากเป็นแมวตัวเมีย จะมีอาการที่เรียกว่าแมวหง่าว หรืออาการที่น้องจะแสดงออกมาด้วยการร้องออกมา และแน่นอนว่าน้องร้องทั้งคืน เรียกได้ว่าทำเอาไม่ได้นอนกันเลยทีเดียวสำหรับอาการนี้ ส่วนแมวตัวผู้จะมีอาการลนลาน และน้องจะปล่อยกลิ่นออกมาจากอวัยวะเพศ และกลิ่นจะอยู่ทั่วบริเวณบ้าน ด้วยเหตุนี้เอง ทำให้ผู้เลี้ยงหลายคนตัดสินใจทำหมันน้อง เพื่อหยุดอาการและพฤติกรรมเหล่านี้ แต่หากถามว่าทำไมไม่ปล่อยให้น้องออกไปละ บอกได้เลยครับว่ามีความเสี่ยงสูงมากที่น้องจะถูกแมวตัวอื่นทำร้าย และอาจจะติดโรคกลับมาได้อีกด้วย
ข้อดีของการทำหมันแมว
สิ่งที่เรียกได้ว่าเป็นข้อดีที่สุดเลยสำหรับการทำหมันแมวคือเรื่องของการสืบพันธุ์ หากบ้านไหนที่เลี้ยงแมวตัวเมีย และกลัวว่าแมวของเรานั้นจะตั้งท้อง เกิดลูก เกิดหลานมาให้เราเลี้ยง ที่สำคัญหากบ้านของเราไม่มีฐานะทางการเงินที่ดี การรับมือกับลูกแมว 1 คอก อาจจะกลายเป็นเรื่องยากไปเลยก็ได้ เพราะแมว 1 ตัวที่เลี้ยง มีค่าใช้จ่ายที่สูงมากในระดับหนึ่งเลย ผู้เลี้ยงจึงควรวางแผนดีๆ หากรับไม่ไหวที่จะมีประชากรแมวเพิ่มภายในบ้าน การทำหมันก็ถือเป็นทางออกที่ดีที่สุด และยังลดพฤติกรรมก้าวร้าวได้อีกด้วย ที่สำคัญหากคุณเลี้ยงแมวในระบบปิดเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว ก็ยิ่งต้องทำหมันแมวเลยเพื่อลดความเสี่ยงในการติดโรคจากสัตว์ภายนอก และลดพฤติกรรมที่เกิดในช่วงที่เป็นสัดอีกด้วย
การทำหมันแมวควรทำตอนไหน
สำหรับการทำหมันแมวนั้นจะมีช่วงอายุ และช่วงวัยที่ถูกกำหนดไว้ว่าสมควรต่อการทำหมัน ซึ่งเพศผู้และเพศเมียจะไม่เหมือนกัน ผู้เลี้ยงจึงต้องศึกษาเรื่องนี้ให้ดีเสียก่อน หากไม่มั่นใจเราสามารถไปสอบถามกับสัตวแพทย์ได้เลยเช่นกันครับ มาดูกันดีกว่าครับว่าแมวเพศผู้และเพศเมียต่างกันอย่างไรในเรื่องของการทำหมัน
แมวตัวเมียควรเริ่มทำหมันในช่วงอายุตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป หากจะใช้เกณฑ์น้ำหนักเพื่อดูแล้วละก็ น้ำหนักตัวควรอยู่ที่ตั้งแต่ 2 กิโลกรัมขึ้นไป ข้อดีของการทำหมันในช่วงเวลานี้คือน้องยังไม่เกิดการติดสัด และลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งเต้านมได้ แต่หากเป็นแมวที่ตั้งท้อง หรือมีลูกอยู่แล้วผู้เลี้ยงต้องรอให้ลูกแมวหย่านมและกินอาหารเองได้ หรืออายุลูกแมวประมาณ 1 – 2 เดือน
แมวตัวผู้ควรเริ่มวางแผนทำหมันให้น้องตอนช่วงอายุประมาณ 7 – 8 เดือน ให้เราสังเกตที่อวัยวะเพศของน้องจะมีขนาดใหญ่ และมีสีคล้ำมากขึ้นกว่าเดิม หากเราทำหมันในช่วงอายุ 7- 8 เดือน จะช่วยลดในเรื่องของความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมากได้ และยังสามารถลดพฤติกรรมความก้าวร้าวลงได้อีกด้วย
เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับ ข้อดีของการทำหมันแมวที่ผู้เลี้ยงต้องทำความเข้าใจ หวังว่าผู้อ่านจะได้รับข้อมูลข่าวสารใหม่ๆ ที่จะช่วยให้คุณได้รู้ว่าการทำหมันแมวแท้จริงแล้วไม่ได้น่ากลัว แต่เป็นการควบคุมประชากรแมวที่จะเกิดขึ้นมา และไม่มีใครเลี้ยง หรือถูกทอดทิ้งเพราะความไม่พร้อมของบ้านนั้นๆ นอกจากนี้ยังช่วยลดพฤติกรรมต่างๆ ที่เป็นพฤติกรรมด้านลบของแมวอีกด้วย ขอบอกก่อนไปนิดนึงนะครับว่าคุณสามารถทำหมันแมวฟรีๆ และฉีดวัคซีนพิษสุนัขบ้าดีๆ ได้ที่กลิ่นควบคุมโรคพิษสุนัขบ้า สำนักงานสาธารณสุขกรุงเทพมหานคร หรือทุกจังหวัดที่ท่านอาศัยอยู่ทั่วประเทศ
