การพาสัตว์เลี้ยงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสุนัข หรือแมวเองก็ตาม ผู้เลี้ยงจะต้องมีการเตรียมตัวก่อนเสมอ หลายครั้งที่ผู้เลี้ยงไม่รู้ว่าต้องทำอะไรบ้าง เพื่อให้น้องนั้นได้เข้าไปตรวจทันที ซึ่งส่วนใหญ่เมื่อไปถึง หมอก็มักจะต้องออกมากุมขมับกันเป็นแถว นั่นเป็นเพราะผู้เลี้ยงไม่ได้เตรียมตัวให้น้องก่อนมาทำการรักษา จะด้วยความไม่รู้หรืออะไรก็แล้วแต่ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นก็ทำให้หลายบ้านถึงกับต้องคิดหนักกันเลยทีเดียว เพราะบางครั้งหมอก็จะต้องนัดอีกครั้ง เพื่อให้ผู้เลี้ยงได้เตรียมตัวทำตามที่หมอบอกก่อน และนั่นก็เป็นเรื่องที่ทำให้หลายบ้านรู้สึกเสียเวลา แถมยังเป็นการเพิ่มความรู้สึกด้านลบในการพาสัตว์เลี้ยงไปโรงพยาบาลสัตว์อีกด้วย ฉะนั้นวันนี้ผมจะพาทุกคนไปดูเรื่องสำคัญที่เราต้องใส่ใจให้มากก่อนที่จะพาน้องออกไปหาหมอ กับบทความ หมอขอที! ก่อนพาน้องมาช่วยทำ 5 สิ่งนี้
1. อย่าอาบน้ำให้น้องก่อนมาตรวจ
เพราะในการตรวจบางครั้งที่เป็นการตรวจเพื่อหาโรคผิวหนังต่างๆ เป็นการหาเชื้อ หากเรานำสัตว์เลี้ยงไปอาบน้ำเพราะกลัวว่าหมอจะเหม็นหรือรังเกียจ ขอแนะนำว่าอย่าทำเด็ดขาด เพราะจะทำให้หมอหาสาเหตุหลักๆ ที่เกิดขึ้นไม่เจอ การอาบน้ำก่อนไปเจอหมอ ก็เหมือนกับการปล่อยให้คนร้ายทำลายหลักฐานในที่เกิดเหตุก่อนตำรวจจะไปถึงนั่นเอง ด้วยเหตุนี้เองผู้เลี้ยงจึงควรจำไว้ให้ดีเสมอว่า หากคุณจะพาน้องไปตรวจสุขภาพ หรือสิ่งใดก็ตามที่เกี่ยวกับผิวหนัง อย่าอาบน้ำให้น้องเด็ดขาดนะครับ หมอไม่รังเกียจแน่นอนได้เลย
2. หากสัตว์เลี้ยงดุช่วยใส่ปลอกคอกันกัดก่อนมา
ถึงแม้หมอจะอยู่กับน้องมานาน เจอมาหลายเคส แต่เชื่อเถอะว่าหมอเองก็พลาดได้ ยิ่งหากเป็นสุนัขหรือแมวที่มีความดุเป็นพิเศษ เพราะน้องอาจจะกัดเข้าที่ร่างกายของมือได้เลย ฉะนั้นหากผู้เลี้ยงรู้ดีว่าสัตว์เลี้ยงของท่านดู กรุณาแจ้งหมอทุกครั้ง และรวมปลอกคอเพื่อป้องดันการทำร้ายหมอ หรือผู้ช่วยก่อน ไม่เช่นนั้นแล้วจากที่จะได้รักษาสัตว์เลี้ยง อาจจะเป็นการพาหมอไปส่งโรงพยาบาลแทนก็เป็นได้
3. สงสัยอะไรให้ถามอย่าเก็บไว้ในใจ
ในการตรวจโรคต่างๆ ที่ยังไม่ทราบสาเหตุ หมอจะมีการซักถามประวัติ และอาการที่น้องเคยเป็นมาก่อน แน่นอนว่าเป็นเรื่องปกติ แต่จะมีบางบ้านที่ผมเองก็ไม่เข้าใจเหตุผลเหมือนกัน ว่าทำไมต้องปิดบังที่มาของสาเหตุการเกิดโรค เพราะอาจจะจะเกิดมาจากการกระทำของผู้เลี้ยง หรือพฤติกรรมของน้องก็ตาม ผู้เลี้ยงก็ควรแจ้งรายละเอียดเหล่านั้นให้หมอทราบโดยละเอียด เพราะหากคุณปล่อยให้หมอวินิจฉัยไปอาจจะมีความผิดพลาดได้ และอีกหนึ่งประเภทที่เจอบ่อยคือมีข้อสงสัย แต่ไม่ยอมถามกับหมอที่ดูแลโดยตรง และไปหาคำตอบในกระทู้ต่างๆ แน่นอนอาจจะช่วยได้ แต่เชื่อเถอะครับ ว่าถามกับหมอที่อยู่ตรงหน้าแบบมีชีวิต ปลอดภัยแน่นอน 100% โดยที่ไม่ต้องกังวลอะไรเลย
4. หยุดพาสัตว์เลี้ยงที่ไม่ได้ป่วยมาเป็นเพื่อน
ก่อนอื่นๆ ขอทำความเข้าใจกันก่อนว่า น้องๆ มาโรงพยาบาลสัตว์ ไม่มีเหงาแน่นอน นั่นเพราะน้องป่วย น้องไม่สบายตัว ไม่มีแรงเล่นหรืออยากเล่นอะไรได้อีกแล้วนอกเสียจากอยากหาย และกลับไปเป็นปกติ ผู้เลี้ยงจึงไม่ต้องนำน้องๆ อีก 2 – 3 ตัวมาด้วย เพราะอย่างที่ทราบกันดีว่าพื้นที่ของโรงพยาบาลเป็นพื้นที่สุ่มเสี่ยงที่อาจจะเกิดการติดเชื้อได้ง่าย เพราะสัตว์เลี้ยงที่มาอยู่ประจำในโรงพยาบาลไม่เกิดอุบัติเหตุร้ายแรง ก็ติดโรคที่ต้องเฝ้าสังเกตอาการนั่นเอง นอกจากนี้เคยมีกรณีที่ผู้เลี้ยงพาสุนัขมาเป็นเพื่อนและไม่สามารถควบคุมได้ ส่งเสียงรบกวน และวิ่งในโรงพยาบาลจนข้าวของเสียหาย นอกจากจะเป็นการทำให้หมอไม่มีสมาธิแล้ว อาจจะทำให้คนรอบข้างรำคาญ และแน่นอนที่สุดว่าส่งผลกับสัตว์ที่นอนป่วยอยู่ในโรงพยาบาลอย่างแน่นอน
5. หากน้องมีโรคอะไร หรือต้องกินยาประจำตัวไหน ให้แจ้งหมอ
ในการตรวจสุขภาพต่างๆ ทุกครั้งให้เรานั้นนำยาประจำตัวน้องมาด้วย เพราะหมอจะได้วินิจฉัยว่าน้องนั้นเคยกินยาตัวไหนมาก่อน จะช่วยให้สามารถวินิจฉัยได้ง่ายขึ้น รวมไปถึงการจ่ายยา หมอก็จะได้ไม่จ่ายยาซ้ำ เพราะบางบ้านที่สุนัขหรือแมวป่วยบ่อยๆ มักจะได้ยาซ้ำจากเดิมเป็นประจำ ส่งผลให้ปริมาณยาที่กินในแต่ละรอบมากขึ้นเรื่อยๆ เกิดความจำเป็น
เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับ หมอขอที! ก่อนพาน้องมาช่วยทำ 5 สิ่งนี้ ที่ทาง Petsayhi ได้รวบรวมมาให้ทุกคนได้อ่านกัน และเชื่อเลยว่าบทความนี้จะทำให้การพาสัตว์เลี้ยงของคุณไปรักษาในครั้งต่อๆ ไป มีระบบมากขึ้น ทั้งนี้หลังจากรักษาเสร็จให้ขอช่องทางการติดต่อสัตวแพทย์ไว้ด้วย หากมีเรื่องสงสัยให้ถามกับแพทย์ที่เคยรักษาโดยตรง จะได้เป็นการตรวจและวินิจฉัยอาการเพิ่มเติมได้นั่นเอง
หากใครชอบบทความสัตว์เลี้ยงแบบนี้อย่าลืมติดตาม Petsayhi เพื่อที่คุณจะได้ไม่พลาดเนื้อหาบทความดีๆ และชัดเจนในทุกเรื่องเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงก่อนใครกับ Petsayhi ศูนย์รวมข้อมูลข่าวสารและความบันเทิงมากมาในสัตว์เลี้ยงแสนรักของคุณ สล็อตแตกง่าย